นิยาย

นิยาย  คำว่า “เป็นศัพท์ที่ไทยคิดขึ้นมาเองเพื่อใช้เรียกวรรณกรรมประเภทเรื่องสมมุติที่แต่งเป็นร้อยแก้วปริมาณยาวตามแบบตะวันตก

นิยาย ซึ่งเดิมทีคนไทยเรียกว่า เรื่องอ่านเล่น หรือเรื่องบันเทิงเริงรมย์ ตรงกับคำว่า Novel ในภาษาอังกฤษ หรือ Novella ในภาษาอิตาเลียน มีรากศัพท์ มาจากภาษาลาตินว่า Novellusสำหรับเมืองไทยนั้นคำว่า NY นั้นเริ่มขึ้นในยุค ร.5 ช่วงปลาย หลังการปรากฏตัวของเรื่องสั้นน้อย ในสมัยนั้นนวNYออกมาในลักษณะเรื่องแปลพิมพ์เป็นเล่มเรื่องแรกเป็นความผูกใจเจ็บ ซึ่งแปลโดย แม่วัน (พระยาสุรินทราชา) พอเรื่องพยาบาทแพร่หลาย คนประเทศไทยหันมานิยมอ่านเรื่องแปลเยอะขึ้นจึงเกิดนักแปลขึ้นมาอีก อาทิเช่นเรื่อง “ขุมทรัพย์” และก็”เรื่องสาวสองพันปี” แปลโดย นกโนรี หรือ หลวงสวยปริความประพฤติ ฯลฯ ซึ่งNYต่างๆพวกนี้นับว่าเป็นนวNYยุคแรกในไทยแล้วก็ไทยก็นำมาจากตะวันตกทั้งหมดNYเรื่องแรกในไทยนั้นยังมีการแย้งกันว่า เรื่อง หัวใจหนุ่ม ของร.6 หรือเรื่อง ความไม่เคียดแค้น ของนกโนรี และด้วยกระแสนิยมงานแปล ยุคเริ่มต้นจึงมีการเขียนNYที่อ้างชื่อตัวละครเป็นชื่อชาวต่างประเทศเพื่อหลอกคนอ่านให้เชื่อว่าเป็นNYแปลเดี๋ยวนี้นวNYไทยนั้น มีทั้งที่ยังไม่ตายNYแปล รวมทั้งนวNYที่คนไทยพวกเราแต่งขึ้นมาเอง นอกจากการเขียนนวNYไว้อ่านเพื่อความเพลิดเพลินแล้ว NYยังถูกนำไปสร้างเป็น ภาพยนต์ บทละคร และก็ละครทีวี อีกด้วย ทำให้ NYแพร่หลายออกไปอีกมาก รวมทั้งด้วยเหตุว่ากำเนิดความมากมายหลากหลายทางวรรณกรรมนั่นเองทำให้วรรณกรรมแนวนวNYนั้นมีรูปแบบที่มากมายตามไปด้วย ขนาดที่ความเจริญของวรรณกรรมช่วงปัจจุบันดำเนินไป NYในยุคเก่าก็ยังถูกสนใจและก็ถูกเรียนอยู่ตลอด กลายเป็นประวัติศาสตร์ ทางวรรณกรรมที่ทรงคุณค่า

ผู้เขียนมาลงตามข้อตกลงที่บอกว่าจะลงหน้าที่รวมลิงก์บทความวัตถุ SCPs เฉพาะที่คนเขียนแต่งมาในสายไซไฟแล้วนะคะบทความโดยรวมของคนเขียนจะจัดได้ว่าเป็น soft-scifi รวมทั้งแสดงความเป็นไซไฟได้ในระดับปานกลาง-น้อย สำหรับแบบที่ในระดับน้อยก็จะเป็นอันที่ไม่ได้เขียนถึงผลการทดลองด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าอันที่จริงแล้วในเรื่องราวปกตินั้นนักวิทย์ฯ กับนักวิจัยกำลังกระทำการทดสอบเพื่อหาคำอธิบายทางด้านวิทย์จากความผิดแปลกอยู่ค่ะเป้าประสงค์ที่ นิยาย คนเขียนอยากลงผลงานเขียนในนี้ด้วย(ไม่นับเรื่องแบ่งประเภท hard หรือ soft แล้ว)ก็คือ คนเขียนอยากทราบว่ามีตรงไหนที่ผู้เขียนดึงศัพท์วิทย์ฯ มาใช้ในแบบที่ผิดจำต้องหรือไม่ ถ้ามีก็ขอก่อกวนชี้แจงพร้อมยกตัวอย่างที่ถูกต้องด้วยนะคะนอกจากนี้ เช่น ลักษณะการเขียนบทความของนักเขียน ก็สามารถวิจารณ์ได้เช่นเดียวกันจ้ะอนึ่ง ถ้าเกิดสงสัยว่าเพราะอะไรเขียนเสมือนเอกสารราชการ นั่นก็เพราะรูปแบบของบทความจัดมาให้มองคล้ายเอกสารราชการอยู่แล้ว และเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ SCP ด้วยจ้ะ หุหุหุองค์ประกอบของNY
1.สาระสำคัญของเรื่อง เป็นแนวความคิดสำคัญของเรื่องที่คนเขียนมุ่งจะสื่อให้ผู้อ่านทราบ แต่ว่าเพราะเหตุว่านวNYเป็นเรื่องยาวก็เลยมีจุดที่ให้แง่คิด และแนวคิดหลายจุด แนวคิดในนวNYแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหมายถึงแนวคิดเอก(Major theme) แล้วก็แนวความคิดรอง(Minor theme)
2.เค้าเรื่อง มีปัญหาข้อขัดแย้งด้านความประพฤติ ด้านเหตุการณ์ หรือด้านอารมณ์ของนักแสดง เพื่อทำให้คนอ่านพึงพอใจใคร่รู้คำตอบในตอนจบ ซึ่งโครงเรื่องของNYจะมีความซับซ้อน เนื่องจากว่าNYมีพล็อตเรื่องย่อยๆ(Sub Plot) แทรกอยู่ในโครงเรื่องหลัก(Main Plot) ที่NYต้องมีทั้งเค้าเรื่องย่อยๆและก็เค้าเรื่องหลักนั้นเนื่องจากนว NY ต้องใช้เหตุการณ์หลายเหตุ และก็เรื่องราวแต่ละสถานะการณ์จำเป็นต้องเชื่อมโยงเกิดเรื่องเดียวกัน
3.นักแสดง เป็นผู้ทำให้เกิดเหตุการณ์ในเรื่อง หรือเป็นตัวละครพฤตกิกรรมต่างๆในเรื่อง นักแสดงก็เลยเป็นส่วนประกอบสำคัญของนวNY ตัวละคระมี 1)ตัวละครที่เป็นตัวเอกของเรื่อง เป็นศูนย์กลางของเรื่อง อาจมีอีกทั้งหญิงหรือชาย หรือเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 2)ผู้แสดงประกอบ มีส่วนช่วยให้เรื่องต่างๆให้เรื่องดำเนินไปด้วยดี สำหรับลักษณะนิสัยของนักแสดงนั้นแบ่งได้ 2 ชนิด เป็นผู้แสดงประเภทตัวแบน(Flat Character)เป็นตัวละครที่แสดงนิสัยเพียงด้านเดียว อาจมีทั้งยังด้านดีแล้วก็ด้านไม่ดีปนกันไป ได้แก่หากเป็นคนชั่วก็ต่ำทรามไปเลยไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง เราเรียกอีแบบว่าผู้แสดงแบบ(type character) และตัวประเภทตัวกลม(round chacacter) เป็นตัวละครที่คนแต่งสร้างให้เป็นตัวละครหลายอย่าง อาจมีด้านดี และด้านไม่ดีปนกันไป ซึ่งมีอารมณ์และก็ความรู้สึกที่แปรไปตามเหตุการณ์ รวมทั้งสภาพแวดล้อม ตัวละครตัวกลมจึงดูเหมือนกับว่าชีวติจริงมากยิ่งกว่า
4.บทพูด คือคำพูดที่ตัวละครใช้โต้ตอบกันในเรื่อง นิยาย บทละครที่ดีจะต้องเหมาะสมกับบุคลิกลักษณะของนักแสดง สอดคล้องกับบรรยากาศ แล้วก็มีลักษณะสมจริงสมจัง
5.ฉาก ซึ่งก็คือเวลาและก็สถานที่รวมทั้งสิ่งแวดล้อมอื่นๆที่ช่วยบอกให้คนอ่านได้รับรู้ว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ใหน ที่นั้นมีลักษณะเช่นไร
6.บรรยากาศ คือรายละเอียดต่างๆที่คนแต่งผลิตขึ้นในงานนิพนธ์เพื่อส่งผลให้เกิดอารมณ์อย่างไดอย่างหนึ่ง แล้วก็มีส่วนทไห้เกิดพฤติกรรมต่างๆของนักแสดง ยกตัวอย่างเช่น บรรยากาศที่สงบ บริสุทธิ์ของคนในสังคมชนบท

ผมเขียน “ร็อบบี้” เรื่องสั้นเกี่ยวกับหุ่นยนต์เรื่องแรกขึ้นเมื่อพฤษภาคม ปีคริสต์ศักราช1939 เวลานี้ผมมีอายุเพียง 19 ปี

เท่านั้นเพื่อที่ทำให้มันแตกต่างจากเรื่องเกี่ยวกับหุ่นยนต์เรื่องอื่นๆซึ่งถูกเขียนขึ้นก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ผมตั้งอกตั้งใจสร้างหุ่นยนต์ในแบบของผมเอง พวกเขาจะไม่มีลักษณะที่จะทำให้มนุษย์เกลียดชัง พวกเขาไม่ใช่ตัวอย่างของความเพียรพยายามของมนุษย์ที่จะล่วงล้ำเข้าไปในงานของพระเจ้า พวกเขาจะไม่แปลงเป็นหอสังเกตการณ์แห่งบาเบลที่ใหม่ที่จำต้องถูกสำเร็จโทษในภายหลังไม่แม้แต่จะมองให้หุ่นยนต์เป็นเพียงชนชั้นสอง พวกเขาจะไม่ใช่สิ่งที่น่าสังเวชซึ่งถูกผลิตขึ้นมารวมทั้งถูกประหัตประหารอย่างไร้ซึ่งความเป็นธรรม ราวกับเรื่องของอีสปที่เขียนถึงพวกชาวยิว คนผิวดำหรือชนชั้นอื่นๆในสังคมตอนที่ 1เทวาพิทักษ์ผมเป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง นิยายวาย กำเนิดในครอบครัวของปราชญ์ชาวบ้านที่รับรักษาลักษณะการเจ็บไข้ได้เจ็บไข้ ตามวิชาความรู้การแพทย์โบราณที่ได้รับตกทอดจากรุ่นสู่รุน ใครๆในบริเวณนี้จึงเรียกพ่อผมว่า บิดาแพทย์ ส่วนตัวผมเองนั้นชื่อ สินทราย บ้านอยู่บนภูเขาที่จังหวัดเชียงใหม่ และก็ใช่ ผมเป็นคนภาคเหนือล้านนา แต๊ๆที่อู้กำเมืองได้ คุณพ่อและก็คุณแม่ของผมเล่าว่าบรรพบุรุษต้นตระกูลบ้านของผมเป็นนักเล่นดนตรี มีวิชาดนตรีทั้งยังเครื่องดีด สี ตี เป่า ที่ช่วยบรรเทาจิตใจผู้คน รวมทั้งใช้รักษาอาการผู้ที่มักฝันร้ายหรือนอนไม่หลับอีกด้วย นิยาย  ผมก็เลยได้มีโอกาสเรียนรู้ และก็เล่นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีพวกนั้นตั้งแต่ยุคยังเป็นวัยละอ่อน และผมยังมีพรสวรรค์ลึกลับบางอย่างมันได้เปลี่ยนชีวิตผมจากคนธรรมดา ให้กลายเป็นชีวิตที่น่าประหลาดใจ ไม่แน่ใจว่าเป็นพรยอดเยี่ยมหรือคำสาปกันแน่ ที่ประจำตัวผมมาตั้งแต่เกิดเมื่อ 18 ก่อน
“อุแง๊ แงๆแงๆ” เสียงทารกน้อยร้องตกอกตกใจตื่นเวลากลางดึกหลังคลอดได้ไม่นาน คนเป็นแม่รีบลุกจากเตียง เดินมายังเปลเด็กที่อยู่ด้านข้าง คนเป็นบิดาลุกไปเปิดไฟ
“โอ่เอ๊ โอ่เอ๊ พ่ออุ้ยเอ้ยย!! มาฮ้องขวัญละอ่อน สักกำ” แม่ประคองลูกน้อยไว้แนบกาย ตะโกนเรียกผู้เฒ่าที่กำลังวิ่งเข้ามาถือขันพร้อมของไหว้สาอีกทั้งพานใส่หมากธูปเทียน ผ้าแดง ข้าวสาร เงินเหรียญบาท
“อ่ออ๊อย ขวัญได้มาตกหกตกหาย ขอฮื้อภรรยาอยู่กับเจ้าจิ่มเน้อ” พ่อเด็กใช้ช้อนสีทองสวิงแกว่งไปมาตักขึ้นรอบตัวเด็กน้อยราวกับถือช้อนของที่ตกหล่น นั่นก็คือ เก็บขวัญหรือสติให้เข้ากลับ ขณะแม่กำลังอุ้มเด็กน้อยไว้บนตัก นิยาย มือซ้ายพลางคลำหัวขนาดเล็กกว่าฝ่ามือเพื่อปลอบขวัญ อีกทั้งผัวเมียในบ้านไม้นั่งมองดูผู้เฒ่าทำพิธี
“บิดาเกิดแม่เกิด แม่ซื้อเหย 3 มื้อลูกผี 4 มื้อลูกคน ฮารับซื้อไว้เลี้ยงผู้เดียว” ผู้เฒ่าคนหนึ่งนำเงินเหรียญมาซื้อเด็ก โดยวางไว้รอบๆตัวพร้อมทั้งเครื่องเซ่นไหว้ หลังจากนั้นเอาข้าวเหนียวมาปั้นแล้วจิ้มไปที่ตัวเด็กและโยนทิ้งไป 3 ครั้ง ตั้งมั่นรับซื้อเด็กไม่ให้ผีสางมารบกวน พร้อมขมวดปมเส้นด้ายผูกผูกข้อมือข้อเท้าสวดคาถา

นิยาย

อาชีพนักเขียนนิยาย นับได้ว่าเป็นอาชีพในฝันของคนอีกหลายคน มีหลายๆคนที่มีความต้องการต้อง

การจะเป็นนักเขียนนวNYจึงทดลองสมัครและเริ่มเขียนงาน วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำแนวทางประพันธ์NYสำหรับมือใหม่ทุกท่าน และคนที่มีความฝันทุกคน เพื่อปรับปรุงทักษะการเขียน NYให้ดีอย่างมืออาชีพ จะมีเทคนิคอะไรมาฝากบ้างไปดูกัน
1. อ่านให้มากแล้วก็มากมายการอ่าน เป็นเลิศในคุณลักษณะพื้นฐานที่ดีของนักประพันธ์ทุกกิ้งก้าน ไม่ว่าคุณจะเขียนอะไรก็ตาม เขียนคำวิพากษ์วิจารณ์ เขียนเนื้อหาของบทความวิชาการ เขียนเนื้อหาบทความทั่วๆไป หรือแม้กระทั้งการเขียนNYเอง เนื่องมาจากการอ่านจะช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ ซึ่งเปรียบเหมือนคลังแสงสำหรับนักประพันธ์  กลับหน้าหลัก เนื่องจากว่าเมื่อเราทราบศัพท์มาก งานเขียนของเราก็จะไม่ใช้ศัพท์ที่ซ้ำๆซากๆที่อาจจะเป็นผลให้ผลงานของพวกเราน่าระอาในสายตานักอ่านได้ ยิ่งไปกว่านี้ การอ่านยังส่งผลให้พวกเราได้ทำความเข้าใจการสำนวนภาษา รวมถึงการวางโครงเรื่องของนักเขียนท่านอื่นๆที่บางครั้งก็อาจจะเป็นนักเขียนนวNYแนวที่ต่างจากพวกเรา ซึ่งองค์ประกอบพวกนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับเพื่อการเขียนทั้งหมดทั้งปวงเพราะฉะนั้นหากว่าผู้ใดกันที่กำลังแต่งNY หรือเพิ่งจะเริ่มเขียนNY แล้วอยากได้ไอเดียหรือแรงจูงใจใหม่ๆก็อาจเริ่มต้นจากการลองอ่านให้มากเพิ่มขึ้น โดยเลือกนวNYหลายหมวดเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าหากเลือกอ่านนิยายในเรื่องที่เราสนใจ จะช่วยปรับให้พวกเราเห็นรูปแบบการเขียนนิยายแนวเดียวกันที่หลากหลาย ทำให้เราสามารถมองเห็นแนวโน้มงานด้านการเขียนที่ได้รับความนิยมในตลาดได้ ทั้งยังสามารถเรียนรู้เทรนด์การอ่านนิยายในเวลานั้นๆได้อีกด้วย
2. หมั่นลงมือเขียน ให้มีวินัยในตัวเองนอกจากการอ่านแล้ว การเขียนก็ถือได้ว่าคุณลักษณะหลักของนักเขียนนว นิยาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนไม่ใช่น้อยคงเคยผ่านหูผ่านตากับวลีที่ว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จด้านในวันเดียว” โดยเหตุนั้น งานนิพนธ์ก็เช่นเดียวกัน เป็นเหตุผลว่าทำไมนักประพันธ์นวNYทุกคนควรลงมือเขียนเสมอๆคุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหักโหมเขียนเป็นจำนวนมากทุกๆวัน บางวันบางทีอาจจะเขียนแค่นิดเดียว หรือบางวันบางทีอาจจะไม่ต้องเขียนก็ได้ แต่ไม่สมควรเว้นตอนทิ้งการเขียนไปนานๆเพราะคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการหมั่นเขียนบ่อยๆ เป็นการฝึกสมองและระเบียบส่วนตัว การเริ่มต้นทำเรื่องอะไรสักอย่างให้เป็นกิจวัตรบางครั้งก็อาจจะเป็นเรื่องยากในตอนแรก แต่เมื่อพวกเราได้ลงมือกระทำเป็นประจำแล้วทุกสิ่งจะง่ายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน นักเขียนนว นิยาย มือใหม่บางทีอาจฝึกฝนเขียนกล้วยๆจากการส่งการ์ดอวยพรวันเกิดเพื่อนหรือแฟน เขียนเนื้อความยาวๆเล่าความรู้สึกของตน จนกระทั่งไปสู่การหมั่นแต่งนิยายลงบนเว็บ และก็มานะทำความเข้าใจจากการเขียนว่าพวกเราได้ติดต่ออย่างถูกจุดไหม มีอะไรอ่านไม่เข้าใจหรือเปล่า การหมั่นเขียนจะช่วยปรับเราทราบข้อบกพร่องของตนเองรวมทั้งสามารถปรับแต่งได้ตรงจุด
3. เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว น้อมรับคำวิจารณ์ของนักอ่านอยู่ตลอดคนเขียนรวมทั้งคนอ่านก็เปรียบได้ดั่งช้อนกับส้อมที่จะอยู่คู่กันเสมอ เมื่อนักอ่านแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ในผลงานของเราไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ ความคิดเห็นพวกนั้นก็ล้วนเป็นเหมือนกระจกสำหรับส่องเราเสมอ ความคิดเห็นในทางบวกเป็นการเสริมสร้างแรงใจ ส่วนความคิดเห็นในด้านลบหรือในด้านคำแนะนำก็สามารถนำมาพัฒนาทักษะการเขียนและปรับแก้ผลงานหรือนิยายของตนให้ดียิ่งขึ้นได้ เมื่อพวกเราเปิดใจแล้วก็ประพันธ์นิยายด้วยการเล่าเรียนจากจุดบกพร่องของตนเอง จะช่วยปรับพวกเราเก่งเยอะขึ้น
4. หมั่นทวนงานนิพนธ์ของตนเอง จะต้องกลับมาอ่านงานทุกหนเมื่อเขียนเสร็จอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นสำหรับเพื่อการเขียนคือ เราจะต้องหมั่นทวนหรืออ่านงานเขียนของตัวเองอยู่เป็นประจำ ในบางครั้งแม้ว่าจะวางโครงเรื่องดี นักแสดงดี แม้กระนั้นการเล่าเรื่องบางทีอาจยังมีจุดบกพร่องบางส่วน หรือยังเจอคำไม่ถูก การกลับมาอ่านซ้ำงานเขียนของพวกเราบ่อยๆ จะช่วยทำให้ปรับพวกเรามองเห็นข้อบกพร่องของตัวเองและก็สามารถปรับปรุงหรือปรับแต่งให้ทันก่อนส่งไปยังสายตาของผู้อ่าน เมื่อพวกเราเขียนงานที่ดีรวมทั้งมีคุณภาพ จะช่วยให้นักอ่านเห็นถึงความบากบั่นแล้วก็ความใส่ใจในงานด้านการเขียนของเรา
5. มีความจริงจัง ตั้งใจในการเขียน และไม่ท้อต่ออุปสรรค
“ความมุ่งมั่นและก็ตั้งอกตั้งใจไม่ย่อท้อ” เป็นเหมือนกุญแจหลักในการเขียน นิยาย เนื่องจากว่าไม่ใช่คนเขียนทุกคนจะสามารถเขียนนิยา