วิธีปรับสตรัท h drive

วิธีปรับสตรัท h drive

วิธีปรับสตรัท h driveวิธีปรับสตรัท h drive กระบวนการตรึกตรองสภาพของโช้คอัพนั้น ผู้ใช้รถสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ ให้สังเกตุที่หน้ายางของรถยนต์ ถ้าโช้คอัพอับอายขายหน้ายางจะสึกเป็นช่วงๆรอบๆให้ใช้มือกดรอบๆข้างบนของบังโคลนทั้งยังหน้าแล้วหลังจากนั้นก็หลังหลายๆครั้ง แล้วปล่อยมือบริเวณที่กด ก็จะมีลักษณะยืดและหด ถ้ามีลักษณะอาการกระเด้งหลายๆครั้ง มีความหมายว่าโช้คอัพนั้นทรุดโทรมขณะที่ขับขี่รถผ่านทางที่ขรุขระหรือทางที่เป็นทางลูกระนาด รถยนต์จะมีลักษณะโยนตัว สาเหตุมาจากสปริง หรือแหนบจะยืดและก็หดตัวอย่างเต็มเปี่ยม จนถึงยางป้องกันกระแทก จะกระแทกกับปีกนกตัวบนอยู่เสมอเวลา หมายความว่าขณะนี้โช้คอัพเหนื่อยที่ จะถ่วงการเคลื่อนที่ของสปริงหรือแหนบพอเพียงแล้วให้สังเกตุเวลาขับขี่รถจะมีความคิดว่าควบคุมรถยนต์ได้ยากมากมาย นั่นถือว่า

 

โช้คอัพไม่สามารถควบคุมการดีดตัวของสปริง หรือแหนบได้ ลูกหมากกันโคลง h drive ล้อจะเต้นจนกระทั่งหน้าสัมผัสของยางลอย จากพื้นผิวของถนนอาการอย่างงี้จะเป็นอันตรายเป็นอย่างมาก ในขณะขับขี่รถเข้าทางโค้งด้วยความเร็วสูง จะก่อให้รถเสียการทรงตัวได้ ให้สังเกตุว่าโช้คอัพมีคราบที่เป็นรอยเปื้อนน้ำมันไหลออกมาหรือเปล่า หากยังไม่มั่นใจให้ใช้ผ้าเช็ดถูแล้วทดลองตรวจการมองอีกที ด้วยเหตุว่าคราบเปื้อนน้ำมันนี้บางทีก็อาจจะมาจากสารหล่อลื่น แกนของโช้คอัพก็เป็นได้

ถ้าเกิดเช็ดถูแล้วมีรอยเปื้อนน้ำมันอีกก็แปลว่าโช้คอัพย่ำแย่ให้ถอดโช้คอัพอเพียงอกมาแล้วดึง ทดลองความหนืด โดยถอดจุดยึดด้านล่างของโช้คอัเพียงพออกแล้วออกแรงดึงการตรวจดูโช้คอัพลักษณะนี้ ควรจะตั้งตัวโช้คอัพให้ตั้งฉากกับพื้น แล้วรอคอยสังเกตุความหนืดของโช้คอัพด้วยหน้าที่ของ “โช๊คอัพ” (Shock Absorber) หน้าที่ของมันเป็นจำกัด และก็รับแรงชนที่เกิดขึ้นจากถนนหนทางปฏิบัติต่อล้อยาง ให้มีการสั่นต่ำที่สุด แล้วก็ทำให้รถยนต์มีการทรงตัวยอดเยี่ยม โดยเหตุนั้นถ้าเกิดส่วนประกอบนี้เสียหายหรือหมดสภาพ จะทำให้การยึดถนนหนทางน้อยลง และก็ควบคุมรถยากขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าว วันนี้พวกเราน่าจะมาพิเคราะห์อาการโช๊คเสียกันว่า

มันคืออะไรร่อนเมื่อขับด้วยความเร็วอาการรถยนต์ร่อน ให้นึกถึงราวกับปะทุรขับขี่รถแล้วเล่นสเก็ตปราศจากความมั่นอกมั่นใจ ธรรมดา อาการนี้จะเป็นเพียงแค่ช่วงรถยนต์มีการไถล ตัวอย่างเช่น เหิรนน้ำ หรือขับในผิวที่ลืนเป็นพิเศษ อาการร่อนของตอนล่าง เป็นควรมีโช๊คมากกว่า 1 ต้น ที่ได้รับความย่ำแย่ ซึ่งควรจะพินิจอย่างรวดเร็วนะครับโคลงตัวเปลี่ยนไปจากปกติ อาการโคลงตัวเปลี่ยนไปจากปกติ เป็นอาการที่ดูได้ง่าย และก็บ่งบอกถึงอาการ โช๊คหมดสภาพ แม้กระนั้นบางทีอาจจะยังไม่ถึงกับขนาดเสียหายจนกระทั่งจำเป็นจะต้องเปลี่ยน เมื่อโช๊คเสื่อม หรือช่างบางบุคคลอาจเรียกว่า โช๊คล้าจะมีลักษณะอาการตึงตัวของการยืด-หดช้าลง ราวกับผู้สูงอายุ นำมาซึ่งการทำให้ เวลาคุณเร่งความเร็วออกตัว หากว่าเป็นรถยนต์ขับข้างหลัง ยกตัวอย่างเช่นรถปิคอัพ จะมีลักษณะอาการหน้าเชิด หรือเวลาเบรก แล้วหน้าทิ่มแทงมากกว่า ธรรมดา ถ้าพบแบบนี้โช๊คอัพเสื่อม หรือาจเพิ่มเริ่มเสื่อมแล้วแน่ๆครับห้องโดยสารมีลักษณะนุ่มเปลี่ยนไปจากปกติ อาการนุ่มแตกต่างจากปกติ

เกิดขึ้นได้เมื่อรถโช๊ตย่อยสลายด้วยการไม่อาจจะซึมแรงสะเอนได้ อาจทำให้มีการกระเด้งผิดจังหวะ มีอันตรายอย่างมาก ต่อการขับขี่ อาการนี้จะเจอเมื่อโช๊คจะต้องดำเนินงานถึงข้อกำหนด หรือ ยืดสุด ดังเช่นว่า จังหวะ ขึ้น-ลงขอสะพาน ผ่านลุกระนาดครึ้มแต่หากโช๊คไม่ทำงานไม่ให้ตัวแล้ว หรือ ช่างชอบใจเรียกว่า โช๊คตายจะทำให้รถมีลักษณะอาการแข็งเป็นไม้แผ่น ขับแล้วกระเทือนไม่นิ่มนวล อย่างงี้จะต้องรับเปลี่ยนแปลงโดยเร่งด่วนอาการโช๊ครั่ว

เป็นการที่น้ำมันในโช๊คมีการรั่วซึ่งออกมาข้างนอกโช๊ค ทำให้เหนื่อยดันจะรับแรงชนจากผิวถนน ส่วนใหญ่ อาการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใช้งานโช๊คสมบุกสมบันอย่างมาก หรือ อาจถึงเวลาตามอายุการใช้งาน ส่วนมากซีลยางจะเสื่อมสภาพก่อน ทำให้มีลักษณะน้ำมันรั่วออกมาอย่างไรก็ดี ถ้าคุณไม่ใช่นักขับช่างสังเกตสังกา เราสามารถวิเคราะห์การเสื่อมสภาพรถยนต์ได้ด้วย ตัวเอง ด้วยการการหยุดรถยนต์ บนพื้นเรียบราบเสมอ แล้ว เอาน้ำหนักตัวจนถึงผ่านมือลงไปที่แต่ละล้อ แล้วปลดปล่อย ถ้าหากรถยนต์ มีลักษณะคืนตัวธรรมดา ไม่ดยกซ้ำ นับว่าผ่าน หาก มีลักษณะโยกซ้ำ 2-3 คราว แสดงว่า โช๊คอัพเสื่อม ด้วยเหตุว่า ผู้ทำระดอนนนั้นมาจากการคืนตัวของสปริง

โช๊คอัพไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้เช่น ที่มันควรเป็น ก็ได้ในขณะที่จำเป็นจะต้องหา โช๊คชุดใหม่ ระบบตอนล่างของรถยนต์เป็นอีกระบบที่มีความหมายในการขับเคลื่อนรถยนต์ การใช้แรงงานรถยนต์หนักเกินความจำเป็นอาจจะเป็นผลให้มีการสึกได้ ขึ้นกับความประพฤติปฏิบัติการขับรถยนต์ หากขับแบบไม่ถนอมตอนล่างรถยนต์ อาจส่งผลให้โช๊คอัพของเราพังก่อนอายุการใช้งาน พวกเราควรเลี่ยงการไม่ขับขี่รถ ตกหลุมบ่อ หรือชนเสมอๆก็จะช่วยถนอมโช๊คอัพของเราได้ แม้กระนั้นถ้าหากมีลักษณะผิดปกติกับช่วงล่างเราจะมีวิธีการตรวจทานโช๊คอัพได้ยังไง สินมั่นอาจ ประกันรถยนต์ มีคำแนะนำมาชี้แนะกันดังต่อไปนี้

โช๊คอัพรถยนต์ เป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่มีความสำคัญต่อรถสำหรับเพื่อการช่วยรองรับแรงชนให้กับรถยนต์ได้สำหรับเพื่อการขับขี่รถ และก็ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของรถยนต์ ทำให้หลักการทำงานของช่วงล่างเกิดความนิ่มสบายในการขับรถ รวมทั้ง ช่วยสำหรับเพื่อการทรงตัวของรถ

โช๊คอัพ (Shock Absorber) มีบทบาทช่วยควบคุมการดีดตัวของสปริง แหนบ หรือช่วงล่างให้คล้ายคลึงไปกับสภาพการณ์ของพื้นถนนเวลาที่รถวิ่ง จะช่วยลดการเสียดสีแล้วหลังจากนั้นก็การกร่อนของยาง ไปจนถึงอะไหล่ช่วงล่าง โดยยิ่งไปกว่านั้นลูกหมาก ระบบกันสั่นสะเทือน ตลอดจนช่วยทำให้ปรับรถยนต์เกาะถนนหนทางเจริญขณะเข้าโค้งได้

ประเภทของโช๊คอัพสามารถแบ่งตามคุณลักษณะ ออกเป็น 2 ระบบ เป็น

1. ระบบน้ำมัน โดยประเภทนี้จะดำเนินงานด้วยระบบไฮดคอยลิค ในขณะใช้งานน้ำมันไฮดรอคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในนำไปสู่ฟองอากาศ
2. ระบบแก๊ส เป็นระบบโช๊คที่ใช้แรงกดดันต่ำ จะมีลักษณะราวกับโช๊คอัพไฮดคอยลิคแบบธรรมดา แต่จะต่างกันก็คือใช้ก๊าซไนโตรเจนเป็นตัวใส่เข้าไปแทนอายุการใช้งานของโช๊คอัพ?โดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยราว50,000-100,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี แต่ว่าขึ้นกับการใช้แรงงานและก็การต่อว่าดตั้งที่ถูกด้วย ชี้แนะให้ตรวจสอบโช๊คอัพทุกๆ20,000 กิโลเมตร

โช๊คอัพชำรุดทรุดโทรมมีมีผลเสียอย่างไร?

– ทำให้รถยนต์เสียการทรงตัว ควบคุมการขับได้ไม่ดี เนื่องจากว่าสปริงและก็ระบบรองรับน้ำหนักของรถยนต์จะเต้นจนกระทั่งลอยจากผิวถนน รวมทั้งแม้กำเนิดขณะที่กำลังขับขี่รถเข้าโค้งจะเสียสมดุลในการทรงตัวของรถยนต์ทั้งคันเสียไปจนถึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ – เมื่อรถยนต์ตกหลุม สปริงจะมีการยุบแล้วก็ยืดตัวอย่างเต็มที่จนถึงสุดระยะยุบ สำเร็จให้มีการชนของส่วนประกอบของรถ – ยางสึกไม่ดีเหมือนปกติ การชำรุดของโช๊คอัพจะส่งผลต่อการสึกของยางเพิ่มขึ้น โดยยางจะมีลักษณะการสึกเป็นหลุม ลึกเป็นช่วงๆยางรถยนต์จะสัมผัสกับถนนไม่เต็มหน้า – ระยะเบรกมากขึ้น การขับขี่รถยนต์ที่มีการเสียของโช๊คอัพ 50% มีผลต่อระยะเบรกที่มากขึ้น 2.6 เมตร ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ – ได้โอกาสเกิดอาการเหาะน้ำ (Hydroplane) ในระหว่างที่วิ่งบนถนนที่มีน้ำหรือในขณะฝนตก – มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในเวลากลางคืน

การชำรุดของโช๊คอัพทำให้รถยนต์โยกตัว ทำให้ไฟหน้าของรถยนต์ส่องไม่คงเดิม ทำให้คนที่ขับขี่รถสวนมา อาจตามัวมัว รวมทั้งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ในที่สุดวิธีตรวจเช็คโช๊คอัพรถยนต์ดูการคืนตัวของโช๊คอัพ – ให้ใช้มือกดไปที่ฝากระโปรงหน้ารถยนต์แล้วปล่อย หากรถยนต์เด้งขึ้นกระดอนลงบ่อยครั้ง แปลว่าโช๊คอัพรถยนต์เริ่มมีปัญหาหรือย่อยสลาย หากแม้กดกระโปรงหน้าแล้วรถไม่กระดอน แสดงว่ายังใช้งานได้ปกติสังเกตรูปทรงของโช๊คอัพ – ให้เช็คคิดว่าโช๊คอัพมีทรงที่ผิดแปลกไปไหม ดังเช่น มีลักษณะงอ เหยเก หรือมีรอยบุ๋ม ถ้าเกิดลักษณะอย่างงี้ขึ้น

โช๊คอัพมีปัญหา ต้องรีบเปลี่ยนรอยรั่วของน้ำมันบริเวณแกนโช๊คอัพ – มองดูรอยน้ำมันที่เกิดขึ้นบริเวณแกนโช๊คอัพ หมายความว่าโช๊คอัพกำลังจะพังทลายแล้ว รีบให้ช่างตรวจดูในทันทีทันใดพินิจอาการของรถยนต์ในขณะออกสตาร์ทรวมทั้งเบรก- ตอนออกตัวรถยนต์ด้วยความเร็ว แล้วหน้ารถเชิดขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็ตอนเบรกที่ใช้ความเร็วต่ำหน้ารถยนต์กลับทิ่มลงในห้องโดยสารมีการสั่นมากกว่าธรรมดา – รถยนต์มีลักษณะกระดอนขึ้น กระเด้งลง เวลาขับบนทางตะปุ่มตะป่ำ หรือพบลูกระนาดรถยนต์มีลักษณะร่อน – ในขณะรถของคุณวิ่งอยู่ที่ความเร็วราว 80 กิโลต่อชั่วโมง แล้วเกิดอาการดังนี้รถยนต์เกิดแกว่งไปมา ร่อนเมื่อถูกลมปะทะจากข้างๆตรวจเช็คความร้อนจากกระบอกโช๊ครถยนต์ – หลังดับเครื่องยนต์ ทดลองสัมผัสมองที่ตัวกระบอกโช๊คอัพ หากแม้จับแล้วร้อน มีความหมายว่าโช๊คอัพยังปกติ แม้กระนั้นถ้าหากไม่ร้อน แปลว่าโช๊คอัพมีปัญหาดอกยางที่ล้อสึกเปลี่ยนไปจากปกติ- ให้พินิจพิเคราะห์ที่ยางรถยนต์ หากยางไม่เรียบ หรือสึกเป็นบั้งแตกต่างกัน มีความหมายว่าโช๊คอัพมีปัญหาวิธีควรรู้เมื่อเปลี่ยนแปลงโช๊คอัพใหม่

– ควรจะหลบภาวะถนนที่มีสภาพไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะจะทำให้โช๊คอัพจำเป็นจะต้องทำงานมาก – การขับรถยนต์ตกหลุมแรงๆหรือขับด้วยความเร็วขึ้น-ลง ลูกระนาด ทำอายุการใช้งานสั้นลง – ด้านหลังการต่อว่าดตั้งโช๊คอัพใหม่ น่าจะขับขี่รถบนทางเรียบประมาณ 300-500 กม. เพื่อเป็นการวอร์มโช๊คอัพ – ข้างหลังการต่อว่าดตั้งโช๊คอัพใหม่จำเป็นต้องผ่านการตั้งศูนย์ล้อด้วยเสมอ – การเปลี่ยนโช๊คอัพ ควรระลึกถึงให้ความปลอดภัยแล้วก็การยึดถนนเป็นหลัก ด้วยเหตุว่าแม้ว่าจะเข้าใจรู้สึกนุ่มนวลในการขับขี่ ถึงแม้การยึดเกาะถนนหนทางบางทีอาจลดลงมีผลต่อความปลอดภัย – การต่อว่าดตั้งโช๊คอัพมีเนื้อหาค่อนข้างจะมาก

ควรได้รับการตำหนิดตั้งจากช่างผู้เชี่ยวชาญถ้าหากรถยนต์ตรวจดูแล้วเจออาการดังที่กล่าวมา ให้รีบนำรถยนต์ไปตรวจเช็ค ซ่อม เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้รถยนต์ผู้คนจำนวนมากย่อมเข้าใจกันดีว่า การดูแลและรักษารถยนต์ในส่วนต่างๆเพื่อให้รถยนต์อยู่ในสภาวะที่พร้อมใช้งานนั้น ควรทำอย่างไรบ้าง แต่สำหรับระบบโช๊คอัพแล้วหลายๆคนบางทีก็อาจจะยังไม่เคยรู้ขั้นตอนการดูแลที่ถูกแล้วหลังจากนั้นก็เหมาะว่าจำเป็นที่จะต้องทำเช่นไรถึงจะสามารถทำให้โช๊คอัพอเพียงยู่กับรถยนต์ของคุณไปได้ยาวนาน แล้วก็เพื่อการต่ออายุการใช้แรงงานได้อย่างนานมากขึ้น วันนี้พวกเราก็เลยมีแนวทางสำหรับดูต้นเหตุที่ทำให้โช๊คอัพรถยนต์เสียได้ง่ายมาฝากกัน เพื่อคุณสามารถหลบหลีกมูลเหตุที่อาจมีผลทำให้โช๊คอัพเสื่อมสภาพเร็วได้อย่างถูกจุดมากขึ้นนั่นเองต้นสายปลายเหตุสำคัญที่ทำให้โช๊คอัพรถยนต์เสียมูลเหตุหลักที่ทำให้โช๊คอัพรถยนต์ของคุณเสื่อมโทรมหรือหมดสภาพก่อนถึงเวลาอันควรจะก็มีดังนี้

1.มีการชนอย่างหนักการขับรถยนต์บนพื้นผิวหนทางที่ขรุขระต่างๆย่อมทำให้ตัวรถยนต์มีการชนอย่างรุนแรง อาจจะก่อให้เกิดสาเหตุของกระบวนการทำให้โช๊คอัพรถยนต์แตกหรือมีรอยรั่วซึมได้ ทำให้ความสามารถสำหรับในการยืดตัวหรือยุบของสปริงนั้นเสื่อมสภาพลงเร็ว ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้รถจึงควรบากบั่นหลบหลีกการขับรถยนต์บนทางที่มีผิวถนนตะปุ่มตะป่ำ ถึงแม้แม้ไม่อาจจะหลบหลีกได้ก็ควรเบาๆชะลอรถในขณะลงหลุมลงบ่อ เพื่อลดการชนอย่างหนักนั่นเอง

2.สปริงยุบถ้าโช๊คอัเพียงพอยู่ในภาวะที่ไม่สมบูรณ์แล้วก็ยังฝืนใช้ต่อไปนั้นก็อาจจะส่งผลกระทบตามมาต่อภาวการณ์ลักษณะการทำงานของตอนล่างทั้งระบบโดยเฉพาะตัวสปริงที่รอรับแรงชน เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้ว อาจจะทำให้สปริงไม่สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจสำหรับในการรองรับแรงชนได้อีกต่อไป ทำให้รถยนต์สูญเสียการควบคุมตัวเองและเป็นเหตุนำมาซึ่งอันตรายตามมาได้

3.รถยนต์รับน้ำหนักมากเกินควรโช๊คอัพของรถยนต์จะมีการระบุน้ำหนักเหมาะสมซึ่งสามารถรองรับได้ แต่แม้มีการบรรทุกน้ำหนักมากยิ่งกว่านั้นก็อาจส่งผลให้มีการแบกรับน้ำหนักที่มากเกินจำเป็น และก็บางครั้งก็อาจจะส่งผลเสียต่อตัวโช๊คอัพได้ หากว่ารถบรรทุกที่จำเป็นที่จะต้องแบกรับน้ำหนักเยอะแยะๆควรเสริมแหนบไปด้วย เพื่อคุณภาพสำหรับในการรองรับการชนที่บริบูรณ์มากขึ้น

4.ใช้งานนานอย่างมากโช๊คอัพรถยนต์แก่เฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ปี ถ้าใช้งานเกินกว่านี้ก็จะกำเนิดอาการสลายตัวได้ ฉะนั้นถ้าหากผู้ครอบครองรถยนต์ใช้งานโช๊คอัพเกินช่วงเวลาที่เหมาะสมก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้นั่นเองเพื่อการใช้รถยนต์ใช้หนทางของคนขับขี่ทุกคน เป็นไปด้วยความปลอดภัยไกลห่างจากอุบัติเหตุจึงจำเป็นมากที่จะต้องใส่ใจตรวจตราสภาพการทำงานที่บริบูรณ์ของโช๊คอัพรถยนต์อยู่เป็นประจำเนื่องด้วยส่วนประกอบ นี้นับว่าเป็นกลไกสำคัญของรถยนต์ที่จะช่วยให้ท่านสามารถขับรถบนท้องถนนได้โดยสวัสดิภาพแล้วก็สบายมากขึ้น

กลับหน้าหลัก