เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ

เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ

Contents

เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ  แต่จู่ๆบิดามารดาของเขาได้เสียชีวิตลงอย่างมีปม อีกทั้งก่อนตายบิดาสั่งให้เขาเฝ้าสุสานตรงเวลาสี่ปีแล้วก็ห้ามไม่ให้เขาประพฤติตนเด่น

เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ หมื่นอสูรก้มกราบ pdf อสูรทลายสวรรค์ เย่ชิงหยู ชายหนุ่มที่ได้รับการยินยอมรับจากเจ้าสำนักกวางขาวว่าเป็นบุคคลอัจฉริยะ ใครๆก็รู้สึกว่าอนาคตของเขาอาจแจ่มใสอย่างไม่ต้องสงสัย แต่จู่ๆบิดามารดาของเขาได้เสียชีวิตลงอย่างมีปม อีกทั้งก่อนตายบิดาสั่งให้เขาเฝ้าสุสานตรงเวลาสี่ปีแล้วก็ห้ามไม่ให้เขาประพฤติตนเด่น

จากเด็กวัยหนุ่มอัจฉริยะก็ถูกเรียกขานว่าเป็นคนโง่เง่า เขาจำเป็นต้องทนให้คนดูถูกดูถูกเหยียดหยามเป็นเวลาสี่ปีเต็ม สุดท้ายก็ถึงเวลาที่เขาจะกลับมาเด่นอีกรอบ ผู้ใดกันแน่ที่ดูถูกดูแคลนเขา มันผู้นั้นต้องเศร้าใจ!
“เพื่อนหยู อย่าร้องไห้เลยลูกบิดา ชีวิตมีกำเนิดมีดับ ถึงเวลาของคุณพ่อกับคุณแม่แล้ว เพื่อนเก่าสหายแก่ก าลังรอคอย เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ หมื่นอสูรก้มกราบ pdf อสูรทลายสวรรค์ บิดาอยู่ที่อ้อมแขนของดวงดาวนะลูกรัก!”

“ฮึๆแต่ถ้าเกิดเทียบกับเหล่าสหายที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ได้มองเจ้าเติบใหญ่จากเด็กแรกเกิดตัวกะจ้อยจนกระทั่งสิบขวบ แค่นี้พ่อก็นับว่าโชคดีที่สุดแล้ว”เย็นแดงชาดเช่นโลหิตการรบป้องกันเมืองเพิ่งจะสิ้นสุดลงหน้าประตูบานยักษ์ที่โบราณและก็ใหญ่โต มีเด็กชายผอมโซ
น้ าตาไหลพรากเป็นสายน้ า ดวงหน้าเยาว์วัยนั้นกลืนกินด้วยความอาดูร

โกรธเกรี้ยวรวมทั้งบ้าโกรธแค้นผัวเมียกลางคนคู่หนึ่งเลือดออกอาบอยู่บนบันไดหน้าประตูบานนั้นเนื้อตัวพวกเขาปกคลุมไปด้วยเลือดกึ่งกลางล าตัวผู้เป็นภรรยามีหอกที่หักเสียบทะลุร่างกายเป็นรูกลวงโบ๋ หายใจรวยริน ร้ายแรงจนถึงใกล้ตายเต็มกำลัง ส่วนด้านผัวนั้น เขาเสียขาทั้งสองข้างและก็แขนอีกหนึ่งข้าง กริชเล็กความยาวเท่าฝ่ามือเสียบกึ่งกลางหน้าผาก

แต่กลับยังมีชีวิตอย่างปาฏิหาริย์เขายังคุมสติที่หลงเหลืออยู่ เสมอเหมือนแสงสว่างในที่สุดของพระอาทิตย์ก่อนที่จะลาลับขอบฟ้าไว้ได้แขนฝ่ายเดียวที่เหลือกอดนางอันเป็นสุดที่รักไว้สนิทแน่นเด็กชายที่ร่ าไห้ราวกับจะสิ้นใจนั้น เป็น เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ หมื่นอสูรก้มกราบ pdf อสูรทลายสวรรค์ ลูกชายผู้เดียวของทั้งคู่เด็กหนุ่มมองดูเด็กน้อยตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความห่วงหาแล้วก็ความรู้สึกที่ยากจะชี้แจงเป็น

ค าบอกเขายิ้ม“ขัดน้ าตาออกเสีย เด็กน้อย เดี๋ยวนี้ลูกจำต้องฟังพ่อให้ดี เรื่อง

ส าคัญของพวกเราต้องยกให้เจ้าสานต่อ ต้องจ าไว้ เขียนจ าไว้ให้ขึ้นใจ เมื่อบิดากับแม่จากไปแล้ว เจ้าต้องอยู่เฝ้าหลุมศพของพวกเราตรงเวลาสี่ปี…จำต้องปกป้องไว้สี่ปี… ไม่เว้นแม้แต่วันเดียว เข้าใจไหม?”เด็กชายก้มศีรษะรับค า แต่ว่าน้ าตายังคงไหลเผาะ

“พ่อทราบดีว่าเจ้าคิดเรื่องอะไรอยู่ พ่อไม่อนุญาตให้เจ้าท าแบบนั้น ห้ามถือโทษแค้นเคือง อย่าไร้เหตุผล เจ้าต้องการเข้าส านักกวางขาวมาตลอด ต้องการฝึกฝนวรยุทธ์ อยากเป็นจอมยุทธ์ที่เก่งกาจ แต่ลูกบิดาเจ้ายังท าแบบนั้นไม่ได้ ในสี่ปีนี้เจ้าจำเป็นต้องอยู่คุ้มครองป้องกันหลุมฝังศพ จงอย่า..”
“อย่าถามพ่อว่าทำไม จ าไว้ ในสี่ปีนี้ เจ้าจำต้องท าตัวเป็นเช่นผงไม่มีคุณค่า ควรนิ่งเฉยไว้อย่าท าตัวโดดเด่น ท าอย่างกับว่าเจ้าไร้ตัวตน…แน่นอน เปลี่ยนเป็นไอ้โง่หรือบ้าใบ้ในสายตาพวกเขาได้ยิ่งดีถึงแม้มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรค่าให้เจ้ากระท าก็ตาม!”

“ข้างหลังสี่ปีไปแล้ว เจ้าถึงจะท าตามใจปรารถนาได้ ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่ง เจ้าแตกฉานเป็นจอมยุทธ์ผู้แกร่งกล้าสามารถ สั่นสะเทือนใต้หล้าเช่นนั้นค่อยไปราชวังอาณาจักรเสวี่ย ทวงของที่เป็นของเจ้ากลับคืนมา เพลานั้น ตรานี้จะบอกข้อเท็จจริงทั้งหมดทั้งปวงกับเจ้าเอง!”ผู้ชายพูดพลางส่งตราประทับและดาบทองแดงสู่มือแก้วตาดวงใจ

ค าสั่งเสียรวมทั้งผู้กระทำระท านี้ ดูเหมือนจะเป็นพลังเฮือกสุดท้ายของเขาแล้วต่อจากนั้น สีสันบนบริเวณใบหน้าเขาฉับพลันสูญหายไปจนกระทั่งน่าใจหายใจคว่ำกลายเป็นซีดเซียวไม่มีสีเลือด เลือดใหม่ๆกระอักออกมาทางปาก
“พ่อ…” เด็กชายตะเบ็งด้วยความห่อเหี่ยวที่ถาโถมเข้ามา

“ยังมีอีกเรื่อง จ าวิชาลมหายใจไม่มีชื่อที่พ่อถ่ายทอดให้เจ้าได้ไหม? ในสี่ปีนี้เจ้าต้องฝึกซ้อมมันแต่ละวันอย่าให้ขาด กระทั่งติดเป็นสัญชาตญาณของเจ้า ท าได้ไหม?”
เด็กน้อยผงกศีรษะอย่างเอาจริงเอาจัง

“แบบนั้นดีแล้ว…” หนุ่มน้อยสูญเสียแสงไฟในแววตาสุดท้าย เพราะเหตุว่าบาดแผลเจ็บหนักและก็เสียเลือดมาก เขาก็เลยดูอะไรมองไม่เห็นอีกแล้วเขาก้มตัวจูบหน้าผากภรรยาที่ยามนี้ใกล้จะสิ้นบุญเหลือทนอย่างแผ่วเบา

เอื้อนเอ่ยด้วยน้ าเสียงที่เศร้าเกินบรรยายในระดับที่พอเพียงให้ได้ยินแต่เพียงผู้เดียว “ยอดรัก เราขอโทษนะ…”ต่อไป เขาก็จากไปชั่วกัลปาวสาน

สายตาของสตรีในอ้อมอกดูก่อนวกับรับทราบในสิ่งที่เกิดขึ้น หยาด

น้ าใสเบาๆกลั่นตัวหลั่งออกมา และนางก็ตายตกตามกันไปในเลวทรามวินาทีเด็กชายยอตัวกลางทะเลเลือดเจิ่งท่วม มือก ากระบี่รวมทั้งดวงยี่ห้อ ร่ าไห้เจ็บปวดนามของเขา เป็นเย่ชิงหยูนับตั้งแต่นั้นในมุมเล็กๆของเมืองทางหมิงทางเขตเหนือ ที่หลุมศพซึ่งไม่มี เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ หมื่นอสูรก้มกราบ pdf อสูรทลายสวรรค์ ต้นหญ้าขึ้นรก มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่

ที่ตรงนั้นมาสี่ปีในระยะสี่ปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เขาใช้เวลาไปกับการนั่งหน้าหลุมศพไม่ขยับเขยื้อนเสมือนรูปสลัก ราวกับคนโง่เขลาคนหนึ่งและเสียงเยาะเย้ย ค าทิ่มแทงมากมายก็รุมเร้ามาเป็นฝูงทุกคนล้วนลงความเห็นว่า ด้วยผ่านเรื่องราวที่พ่อแม่ถูกฆาตกรรมตาย เด็กชายที่เคยปรีชาจนกระทั่งน่าขนลุก วรยุทธ์เหนือคนธรรมดาทั่วไป อีกทั้งเจ้า

ส านักของส านักกวางขาวท านายไว้ว่าจะยอดเยี่ยมยุวชนฟ้าประทานแปลงเป็นขยะไปแล้ว
เย่ชิงหยูนั้นแปลงเป็นคนเหม่อลอย เพ้อเจ้อ บื้อรวมทั้งโง่เง่าเป็นแค่หนอนเน่าๆน่าสมเพชตัวหนึ่งเป็นไอ้โง่ที่จะทำร้ายด่าว่าอย่างไรก็ได้บุคคลคนที่เคยเป็นมิตรเพื่อนของเครือญาติเย่ ได้มาฉ้อโกงซื้อกระบี่ล้ า

ค่าของตระกูลเย่ไปในราคาที่ต่ าที่สุดยังมีผู้ใส่มือเข้ามา ยึดบ้านยึดช่อง ฮุบกิจการค้าทางเขตเหนือของเครือญาติเย่ผู้ดีตีนแดงบางพวกใช้เส้นสายยึดเอาเคหาสน์ของตระกูลไปเด็กผู้ชายคนนี้ก าลัง

ค่อยๆสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเขาเช่นเดียวกันกับไร้ซึ่งก าลังจะต้านทานมันดุจคนไหนกันแน่จะเอารัดเปรียบเทียบอะไรเขา หรือถ่มน้ าลายรดหน้าเขา…ก็ย่อมได้แต่ตัวเด็กผู้ชายเอง มิได้ใส่ใจคนกลุ่มนี้เลยสักนิดจนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่มิตรสหายเพียงผู้เดียวของเขาก็ลาจากเขาไป

“พี่ชิงหยู ท่านตกต่ าแล้ว เราเองก็โตแล้ว ขอโทษนะ ค าสาบานที่จะปกป้องรักษาเคียงข้างกันในขณะนั้นน่ะ ปลดปล่อยมันลอยไปกับสายลมเหอะ อย่าโทษข้าเลยจ๊า คือว่า…เราสอบเข้าส านักกวางขาวได้ ไว้เจอกัน…ไม่สิ อย่าได้พบกันอีกเลยดียิ่งกว่า!”เด็กสาวผมเอ็งละซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเด็กที่คอยยืนเกาะอยู่ข้างข้างหลังเขาราวกับแมลงตัวเล็กๆเด็กผู้หญิง

ที่เขาช่วยเหลือคุ้มครองปกป้องไว้นับครั้งไม่ถ้วน ได้ตบท้ายไว้เท่านั้น แล้วนางก็ตัดสินใจหันหลังให้เขานางเดินไปกับฝูงชนที่สวมเครื่องแต่งตัวหรูหราราคาแพง นางจากไปโดยไม่แม้กระทั้งจะหันกลับมามอง

วรยุทธ์ของนางเป็นที่ประจักษ์ เสมือนนกที่สยายปีกแผ่แสนยาเหนือท้องท้องฟ้าแม้กระนั้นเขาจำต้องทนรับบทบาททดลองหน้าหลุมฝังศพแห่งนี้เพียงแค่ล าพังถึงสี่ปีเต็มบทที่1 ราชาผู้พิชิตสี่มงกุฎสี่ปีผ่านไป ไว

เช่นเดียวกันกับโกหกตอนนี้เย่ชิงหยูอายุสิบสี่ปีแล้วเขาเป็นชายหนุ่ม ใช้ชีวิตยากจนอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรมเขตเหนือของเมืองเล็กๆนามว่าลู่หมิง ชายแดนของอาณาจักรเสวี่ยสี่ปีกลาย อาณาจักรเสวี่ยคืออาณาจักรอันเกรียงไกรในใต้หล้าแม้กระนั้นยามนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อครั้งบิดามารดาของเย่ชิงหยูถูกล้อมด้วยกองทัพอสูรและซาตาน

ด้วยเหตุว่าสถานการณ์ผิดไปจากที่คาดคะเนไว้ ก็เลยสิ้นใจในการรบ เขากลายเป็นเด็กก ามีดพร้า บ้านเชื้อสายเย่เสียหลักชนิดกู่ไม่กลับ สูงสุดสู่สามัญวันนี้เอง เป็นวันที่ช่วงเวลาสี่ปีจะสิ้นสุดลง
“ท่านบิดา ท่านแม่ ครบสี่ปีแล้วนะขอรับ”พริบตาเดียวที่เข็มนาฬิกาแดดบอกในช่วงเวลาที่มุ่งหมายไว้ สีหน้าของเย่ชิงหยูเปลี่ยนแปลงจากด้าน

ชาเป็นมีชีวิตขึ้นมา เขาลืมตา ดวงตาทอประกายดังมีดวงไฟร่ายร าเหมือนว่า แปรไปเป็นคนละคน

เย่ชิงหยูย่อเข่าแทบจะหลุมฝังศพ ค านับสามครั้งด้วยความเคารพนับถือยิ่ง ต่อไปก็เริ่มลงมือขุดหน้าป้ายหลุมฝังศพพลิกหน้าดินใหม่ขึ้นมา ขุดลงไปได้สามนิ้ว กล่องสีด าที่ถูกฝังไว้อย่างดีก็ปรากฏขึ้นมามันเป็นเพียงแค่กล่องเหล็กธรรมดาๆที่ถูกท าขึ้นมาอย่างคร่าวๆไม่มีแม่กุญแจ มีร่องรอยการกัดกร่อนตามกาลเวลาท าให้มันเป็นสนิมเขรอะ ดูแล้วมันผ่านร้อนผ่านหนาวมามากทีเดียว

เย่ชิงหยูเบาๆจับมันขึ้นมาให้ละเอียด เขาเปิดมันออกอย่างแผ่วเบา เผยให้เห็นตราประทับทองแดงนอนแน่นิ่งอยู่ด้านในยามแสงแดดสาดกระทบ กระบี่ซึ่งต่างกับของเก่าคร่ าครึเมื่อครู่ส่งประกายวับวาบนี่เป็นโภคทรัพย์ล้ าค่าที่สุดที่พ่อแม่เหลือไว้ให้เขา

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ตามคำสัญญาที่ได้คำสัญญาไว้กับพวกท่าน เวลานี้เราสามารถท าอะไรก็ได้ดั่งหัวใจปรารถนา เรากลับไปเป็นปกติได้แล้วสินะ?ฮะๆพวกเหลือขอที่ศีรษะเราะเยาะข้าตลอดสี่ปีมานี่ ต้องตะลึงงันจนถึงอ้าปากค้างแน่นอนใช่ไหมขอรับ?”เมื่อกล่าวถึงปัจจุบันนี้ เย่ชิงหยูก็ฉับพลันนึกอะไรออก มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาดสี่ปีที่ความสันโดษ

ความล าบากอัตคัด มิได้ท าให้นิสัยเขาบิดเบือนไปใฝ่ดูถูกดูแคลน ถากถาง หรือริษยาแต่อย่างใดเขายังคงสนุกสนานรื่นเริงและก็มองโลกในแง่ดี ยังคงเชื่อมั่นในตัวเองเหมือนเก่าก่อนความสูญเสียไม่มีสลักส าคัญอะไรเป็นเพียงแต่สิ่งที่ไม่มีคุณค่า รวมทั้งสิ่งที่เขาได้มาเป็น เทพจักรพรรดิเจ้าพิภพ หมื่นอสูรก้มกราบ pdf อสูรทลายสวรรค์สมบัติสูงค่า

โน่นคือ ความสงบ หัวใจบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ประกอบกับดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหลักแหลมจริงๆซึ่งสามารถมองความคดโกงได้ทะลุปรุโปร่งคู่นี้มีเพียงความล าบากเท่านั้น ถึงจะขัดเกลาคนให้กลายเป็นยอดคนได้สี่ปีผ่านมานี้ ส าหรับเย่ชิงหยูแล้ว เขารู้สึกเสมือนกำเนิดใหม่
“เฮอะๆพวกผู้ที่เยาะเย้ย กดขี่ตระกูลเย่ตลอดสี่ปีที่ผ่านมานี้ พวกเจ้าโชคร้ายแล้วล่ะ ข้าเป็นคนความจ าดีเรื่องแค้นๆเสียด้วยสิ ท่านบิดา ท่านแม่ ในเวลานี้ข้าจะเริ่มลงมือแล้วนะ พวกท่านอาจไม่โทษเรา…ใช่ไหมขอรับ?”สีหน้าท่าทางของเขายามเอื้อนเอ่ยนั้นทั้งเรียบรวมทั้งสงบนิ่ง ดั่งว่าบิดาแม่มานั่งฟังเขาอยู่ข้างหน้า

เย่ชิงหยูเก็บตราประทับทองแดงไว้ดูเหมือนกับว่าเขาจะคิดอะไรออกอีกแล้ว
“แล้วหลังจากนั้นก็ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่ตระกูลเราสูญเสียไป ข้าจะเป็นคนทวงคืนมันมาด้วยมือข้าเอง ท่านพ่อ ท่านพูดถูกแล้ว ไม่มีอำนาจของความโกรธใดไร้ความหมาย เพราะฉะนั้น ข้าจึงตัดสินใจจะไปเล่าเรียนในส านักกวางขาว

พวกท่านอาจไม่ถกเถียงข้าใช่รึไม่? รอคอยเราฝึกฝนวิชากระทั่งเก่งกระบี่ กิจการค้า รวมทั้งยังเคหาสน์เก่าของเชื้อสายเย่ ข้าจะเป็นคนทวงคืนมาทั้งสิ้น!”เด็กหนุ่มเช่นเดียวกันกับก าลังให้สัตย์สาบานกับหลุมศพ
“ใช่แล้ว หากแม้ยามใกล้หมดลม พวกท่านจะไม่ต้องการให้ข้าเข้า

ไปยุ่งเกี่ยวกับหัวข้อนี้ แต่ว่าอย่างไรข้าก็จำเป็นต้องสืบให้ควรได้ ว่าการศึกป้องกันเมืองในปีนั้นแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ถึงท าให้พวกท่านถูก

ตาย…ไม่ว่าใครจะกีดขวางเราอยู่ เราก็จะต่อสู้ ละเลงเพลงหมัดเบิกฟ้า ให้แสงสว่างสาดลงมาที่ไอ้พวกเหลือขอได้ใช้!”

เย่ชิงหยูดูป้ายหลุมศพนิ่งเงียบ เหมือนกับเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยของพ่อแม่ก็ไม่ปานรอยยิ้มของเขาเปี่ยมเต็มไปด้วยความแน่ใจไกลออกไป แสงแดดสีทองอร่ามสร้างผ่านม่านหมอกยามรุ่งราวกับกระบี่ ชั่วพริบตาแสงสว่างระยิบนับไม่ถ้วนปรากฎออกมาร่างของเย่ชิงหยูอาบไปด้วยแสงทอง เขาหันรับอรุณแล้วเดินจากไป

ต านานบทหนึ่ง แม้ว่าจะช้ากว่าเวลาที่กะไว้อยู่สี่ปี แต่ก็ยากที่จะสกัดได้ ได้มีขึ้น ณ ป่าช้าแห่งหนึ่งในแหล่งเสื่อมโทรมอย่างเงียบๆ
……
……มีเรื่องมีราวที่กล่าวขวัญมานานนับพันปี ความปั่นป่วนที่ห้วงที่กาลนั้นได้แอบโลกลี้ลับมาก แบ่งแยกออกเป็นดินแดนนับไม่ถ้วนความมากมายนั้นเสมอกันดวงศิลปินซึ่งไม่สิ้นสุดเมื่อครั้งก าเนิดพื้นดิน ในความอลหม่านที่ใช้เวลาหลายล้านปี

จ านวนดินแดนที่ถูกผู้กล้าแกร่งของแต่ละเผ่าพันธุ์เข้าจองนั้นอยู่ที่ประมาณแปดสิบเอ็ดโลกด้วยกัน อาทิเช่น ภพเมฆีเขียว ภพเดือนอัสดงภพใต้ไกลเป็นโลกล าดับที่สิบเก้าที่มีความเจริญก้าวหน้าสูงสุด

ทุกๆภพล้วนมีเขตแดนกว้างใหญ่ไพศาล และตั้งโลกใบย่อยขึ้นมา ก าเนิดเชื้อสายรวมทั้งชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนโลกไทวะ คือหนึ่งในดินแดนที่อ่อนเยาว์ที่สุด เพิ่งริเริ่มได้เมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ความโด่งดังก็เลยมีไม่มากสักเท่าไรนักแล้วก็เมืองลู่หมิง ก็คือเมืองเล็กๆที่อยู่ห่างไกลในโลกไทวะ

…….ในวันกลางหน้าร้อนกลางเมืองลู่หมิงนั่นเอง มีเหล่าผู้สมัครเข้าส านักก าลังเดินเข้าแถวไปเป็นล าดับ ดังเช่นที่เป็นมาทุกปีตรงนี้เป็นแหล่งร่ าเรียนวิชายุทธ์ขั้นเริ่มที่เลื่องชื่อที่สุดในระยะหลายพันลี้นี้ ตั้งแต่ส านักกวางขาวเริ่มตั้งเมื่อหกสิบปีก่อน ตรงนี้ถือว่าเป็นส านักอันศักดิ์สิทธิ์ของการฝึกฝนยุทธ์ในฝันของเหล่าเด็กหนุ่มสาวมากหากแม้อาทิตย์จะเพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้า

ก็มีฝูงคนบ้าระห่ านับหมื่นยืนกระเบียดกระเสียดจนถึงประตูใหญ่ของส านักกวางขาวเมื่อได้ยินเสียงระฆังของส านักดังก้องกังวาล การรับสมัครก็ได้เริ่มขึ้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีดวงอาทิตย์ค่อยๆแผดแสงแรงกล้าขึ้นจนถึงผิวเนื้อแสบร้อน แต่ก็หากัดกันความกระตือรือร้นของพวกเขาได้ไม่เว้นแต่ผู้ชายและสตรีจากเมืองลู่หมิงแล้ว

ยังมีคนจากแว่นแคว้นดินแดนไกลที่ห่างออกไปไม่หย่อนยานไปกว่าพันหลบก็มาสมัครกันอย่างพลุกพล่านพวกเขาได้ออกเดินทางจากทุกเผ่าหรือดินแดนห่างไกลความเจริญ ข้ามน้ าผ่านทะเล บุกบั่นมาเพื่อการนี้ แถมยังมีครอบครัวติดตามมาปกป้องรักษาเพื่อได้มาการทดสอบในครั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งส าหรับเหล่าผู้ยากแค้นแร้นแค้นทั้งหลาย

นี่คือช่องทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้เมื่อผ่านการทดสอบและก็แปลงเป็นลูกศิษย์ของส านักกวางขาวก็พอๆกับได้เปิดโอกาสสู่ชีวิตใหม่ มุมานะฝึกหัดวิชาเปลี่ยนเป็นชาวยุทธ์ผู้มีพลังกำแหงได้เมื่อใด ก็สามารถเปลี่ยนชะตาอันน่าอดสูของครอบครัวที่รอ

อยู่เบื้องหลังได้ช่วงนี้เอง ที่เมืองทางหมิงครื้นครึกเหมือนกับก าลังฉลองเทศกาล

“เฮ้ย ได้ยินแล้วยัง? เรื่องที่ซ่งชิงหลัวที่หอการค้าชิงหลัวพึ่งอายุได้สิบสองขวบ ลงทดลองหนแรกก็สอบได้ได้หวานหมู ท าคะแนนทั้งหกส่วนได้เหมาะสมที่สุด ได้ฉายาว่าฟ้าประทานวรยุทธ์เชียวนะ! เห็นทีชิงหลัวน่าจะให้ก าเนิดเซียนตัวน้อยเข้าแล้วสิ!”
“แล้วนี่ล่ะอะไร บุตรแม่ทัพหลี่เขตใต้ของเมืองเราหลี่เฉิงจิ้น ข้าได้ยินมาว่าเป็นอัจฉริยะยุทธ์ชั้นเยี่ยมเลยนา มีความเห็นว่าเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใหญ่ในส านักคนไม่ใช่น้อยเลยนี่”

“นี่มันก็ไม่แปลกหรอก เชื้อสายชั้นสูงอู้ฟู่แบบนั้นจะสอนวิชาพื้นฐานยุทธ์ให้ลูกหญิงลูกชายตั้งแต่เล็กได้ก็ไม่ผิด วิชายุทธ์ หยูกยา ทรัพย์สมบัติสมบัติมีพร้อมทุกอย่าง พวกคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดทั้งนั้นเสียเวลาลงแรงบางส่วน การจะสอบเข้าส านักกวางขาวผ่านยังไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเรอะ?”
“ใช่แล้ว ไม่ถูกกับพวกคนจนข้นแค้น ลูกหลานผู้ดีเหล่านี้ชนะตั้งแต่เริ่มแล้วล่ะ!”

“คนยากจนก็อยู่ยากเข้าไปใหญ่นะซี่!”หน้าประตูใหญ่ส านักกวางขาว ฝูงคนคุยกันออกรสชาติมีบางคนโศกศัลย์ยากจะหาคนไหนกันแน่ปาน

เพราะตั้งแต่เริ่มสอบจนกระทั่งในช่วงเวลานี้ เด็กวัยหนุ่มเด็กผู้หญิงซึ่งสอบ

ได้ล้วนแต่เป็นลูกคนใหญ่โตทั้งหมด อีกทั้งคนด้านล่างที่มาสมัครเข้าสอบก็น้อยชนิดหนึ่งร้อยมีแค่สอง คนจะผ่านไปได้อาจน้อยจนกระทั่งน่าตกอกตกใจคนสอบผ่านกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ พวกที่ไม่ผ่านก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น สีหน้าห่อเหี่ยว คนจำนวนไม่น้อยสุขหลายท่านระทดความจอง

หองของเหล่าลูกผู้ดีแล้วก็ความกดดันของลูกหลานผู้ยากแค้น ช่างตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเส้นทางสายยุทธ์ที่แท้แล้วขาดความกรุณาปรานียิ่งสนามสอบเข้าส านักก็อยู่ตรงประตูใหญ่ส านักนี่เองผู้คนยัดเยียดแทบจะล้นลานสอบตามค าประกาศผลดังๆโดยตลอดของข้าราชการ ผู้คนทั้งหลายก็อุทานกันอย่างโจ่งแจ้ง ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกบางคนก็เป็นลมเป็นแล้ง

บางคนก็ส่งเสียงขอร้อง บางคนก็น้ าตาพรูเป็นสายเป็นในเวลานี้เอง ที่ฝูงคนแยกออกจากกันชายมีสง่าราศีผู้หนึ่งยิ้มแย้มพึงพอใจ เขาแทรกจากในที่สุดขึ้นมาหันเดินตรงไปพบจุดสอบเพียงแค่เขาปรากฏกายออกมา

ก็ดึงความพึงพอใจคนล้นหลามได้อยู่หมัดเขามองเป็นหนุ่มน้อยอายุราวสิบสี่สิบห้า ใส่เสื้อผ้าเรียบๆและก็กระด้าง ใช้เชือกหญ้ามัดผมด าขลับดกไว้กล้วยๆผมยาวพลิ้วไหวราวกับน้ าตก ร่างกายสูงใหญ่ กล้ามแข็งแรง คิ้วคมดังคมดาบตามีประกายราวกับดวงดาว ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความมาดมั่นไม่ว่าใครที่ได้พินิจใบหน้

กลับหน้าหลัก