www.money loan.com

www.money loan.com จำนองจะต้องใช้อะไรบ้าง

www.money loan.comwww.money loan.com จำนองจะต้องใช้อะไรบ้างการจะไปยื่นกู้หนี้ยืมสินที่จำต้องวางบ้านหรือที่ดินไว้เป็นประกันหรือที่เรียกว่าการจำนองนั้น ทางธนาคารหรือบริษัทเอกชนที่รับจำนำจะพินิจจากตัวผู้กู้ด้วยครับ โดยมีคุณสมบัติหลักๆที่มักนำไปใคร่ครวญ ยกตัวอย่างเช่น

1. มีชนชาติไทย อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป

2.1 ถ้าเป็นพนักงานประจำ ต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่าที่กำหนด (ราว 1 ปี หรือ 2 ปี)

2.2 ถ้าเกิดเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ต้องดำเนินกิจการมาไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่กำหนด (โดยประมาณ 2 ปี)

3. มีค่าแรงขั้นต่ำต่อเดือนตามกำหนด (ราว 15,000 บาทขึ้นไป)

4. มีผู้กู้ร่วมได้ไม่เกินปริมาณที่กำหนด รวมทั้งจะต้องเป็นญาติพี่น้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนหลักฐานสำหรับเพื่อการยื่นกู้หนี้ยืมสินโดยใช้อสังหาริมทรัพย์วางเป็นประกันหรือการจำนำนั้น จะขึ้นอยู่กับธนาคารหรือบริษัทผู้ให้กู้ ได้แก่เอกสารเฉพาะบุคคล

1. สำเนาบัตรประชาชน

2. สำเนาทะเบียนบ้าน

3. สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้าหากมี) สำเนาหลักฐานหย่า (ถ้าหากมี) หรือสำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือสกุล (ถ้าเกิดมี)

4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและก็ทะเบียนสำมะโนครัวของคู่ครอง (ถ้ามี)เอกสารเรื่องการเงิน

1. สลิปค่าตอบแทนรายเดือนเดือนล่าสุดหรือหนังสือรับรองเงินเดือน

2. สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน

3. แม้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องมีเอกสารเสริมเติม ได้แก่ ทะเบียนการค้า หนังสือรับรองกระทรวงพาณิชย์ หนังสือบริคณห์สนธิ เป็นต้นเอกสารด้านหลักทรัพย์

1. หนังสือรับรองเจ้าของของบ้านหรือที่ดิน

2. หนังสือสัญญาจำหน่ายที่ดิน ทั้งผองนี้เป็นเพียงแต่ข้อมูลหลักๆที่แบงค์และก็บริษัทเอกชนหลายแห่งอยากได้เพื่อประกอบการไตร่ตรองปลดปล่อยกู้นะครับ แต่บางที่อาจอยากหลักฐานอย่างอื่นเพิ่มอีกก็ได้ ฉะนั้นควรตรวจตราข้อมูลที่ได้มาจากธนาคารหรือบริษัทนั้นๆก่อนไปดำเนินการด้วยครับ

จำนำที่ใดดีและจำต้องดูอะไรบ้าง

การที่เพื่อนฝูงๆจะนำบ้านหรือที่ดินไปจำนำเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับเพื่อการกู้ยืมเงินนั้นถือเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องคิดอย่างถี่ถ้วนก่อน เพราะการเป็นหนี้เป็นสินหลักแสนหรือล้านนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆทั้งในปัจจุบันยังมีสถาบันการเงินรวมถึงบริษัทเอกชนจำนวนมากที่พร้อมให้นำบ้านมาเป็นหลักประกันในการกู้หนี้ยืมสิน ด้วยเหตุนั้น พวกเราจำเป็นที่จะต้องไตร่ตรอง ดังต่อไปนี้

1. ความน่าไว้ใจของบริษัทที่รับจำนำ ในส่วนของธนาคารชื่อดังคงจะไม่น่าห่วงมากแค่ไหน แต่ว่าแม้เป็นบริษัทหรือเอกชนรายอื่นๆควรจะตรวจทานข้อมูลให้ดีและเลือกแหล่งที่มีความน่าไว้ใจเพื่อหลบหลีกปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในคราวหลัง

2. จำนวนวงเงินที่อนุมัติ เพราะแม้เงินที่ได้จากการยืมน้อยกว่าที่ต้องการ อาจจะทำให้เงินที่ได้มาน้อยเกินไปจะนำไปขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แถมยังติดหนี้ติดสินมากขึ้นอีก ปัญหาเก่าก็ยังไม่หาย ปัญหาใหม่มากขึ้นอีก อย่างนี้แย่แน่ๆขอรับ

3. ระยะเวลาผ่อนส่งรวมทั้งดอก เป็นเรื่องจำเป็นจำต้องคำนวณให้ดี ควรจะเลือกแบบซึ่งสามารถรับผิดชอบไหว ส่งได้ตามที่มีการกำหนด นอกเหนือจากนั้น ผู้รับจำนองแต่ละแห่งก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน เพื่อนฝูงๆจำเป็นจะต้องเปรียบแล้วก็เลือกรายที่คิดดอกเบี้ยถูกที่สุดเพื่อที่จะได้ให้พวกเราไม่ต้องจ่ายดอกที่แพงเกินไปนั่นเอง

4. อ่านรายละเอียดในคำสัญญาให้ครบถ้วน ก่อนที่จะเซ็นต์ชื่อลงไป อยากที่จะให้เพื่อนๆอ่านคำสัญญาให้ดีก่อนว่าเป็นการจำนอง รวมทั้งมีข้อมูลอื่นๆตรงตามที่ตกลงกันไว้ เพราะเหตุว่าถ้าเกิดเซ็นต์ลงไปแล้วโน่นแสดงว่าพวกเรายอมรับข้อตกลงทั้งปวงในคำสัญญานั่นเอง จะกล่าวว่าไม่เคยรู้ก็อาจจะไม่ทันแล้ว การจำนองบ้านหรือที่ดินนั้นก็ราวการที่พวกเรานำอสังหาริมทรัพย์ของพวกเราไปวางเป็นหลักประกันไว้เพื่อเป็นประกันการใช้หนี้ แล้วก็จะเอากลับคืนก็เมื่อใช้เงินครบตามข้อตกลงที่ตกลงกันไว้กับผู้รับจำนำ ฉะนั้นสหายๆควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลของบริษัทที่รับจำนองให้ดี แล้วก็อ่านเนื้อหาในสัญญาให้ครบ จะได้ไม่ถูกคนอื่นเอาเปรียบหรือโดนโกงนั่นเอง

ชนิดการจดทะเบียนจำนำ www.money loan.com

1. จำนองความหมาย คือ การจดทะเบียนจำนำที่ดินทั้งยังแปลงหรือสิ่งก่อสร้างทั้งยังหลัง หรือที่ดินทั้งยังแปลงพร้อมสิ่งก่อสร้าง ถ้าเกิดที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างมีเจ้าของคนเดียว ผู้ครอบครองคนเดียวนั้นจำนอง ถ้าหากมี เจ้าของคนไม่ใช่น้อยผู้เป็นเจ้าของทุกคนจำนำในครั้งเดียวกันชนิดการเขียนทะเบียนนี้มีใช้อีกทั้ง ” จำนำ ” แล้วก็ ” จำนองเป็นประกัน ”

แม้กระนั้นไม่ว่าจะใช้ยังไง ความหมายอย่างเดียวกัน เพราะจำนำแปลว่า เป็นการรับรองอยู่แล้ว แต่ว่าดังที่ถือ ปฏิบัติกันมาเป็นประเพณีว่าถ้าหากแบงค์ สหกรณ์ แล้วก็ส่วนราชการเป็นผู้รับจำนำ ใช้ประเภทว่า ” จำนำเป็นประกัน ” นอกจากนั้นใช้ประเภท “จำนอง ”

2. จำนำเฉพาะส่วนความหมาย หมายถึง อสังหาริมทรัพย์มีคนที่เป็นเจ้าของร่วมกันผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคนที่เป็นเจ้าของคนหนึ่งหรือคนไม่ใช่น้อยแต่ว่าไม่หมด จำนำเฉพาะส่วนของตัวเอง

ส่วนคนที่เป็นเจ้าของคนอื่นๆมิได้จำนำด้วยการจำนองเฉพาะส่วน ผู้จำนองสามารถจำนำได้โดยไม่ต้องให้ให้ผู้เป็นเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ซึ่งมิได้จำนองด้วยยอมหรือให้ถ้อยคำอะไร (มาตรา 1361 วรรคแรก ที่ ป.พ.พ. และคำสั่งกรมที่ดิน ที่ 6/2477 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2477 ข้อ 2)

3. จำนำเพิ่มหลักทรัพย์ความหมาย หมายถึง จำนองอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นประกันหนี้สินซึ่งได้ลงบัญชีจำนำอสังหาริมทรัพย์ อื่นเป็นประกันไว้แล้ว โดยให้ถือจำนวนเงินที่จำนองแล้วก็ข้อแม้กติกาอื่นๆเป็นไปตามข้อตกลงจำนองเดิมการจำนำเพิ่มหลักทรัพย์เป็นการจำนำตามนัยมาตรา 702 ที่ เปรียญพ.พ. เหมือนกันกับ

การจดทะเบียนจำพวกจำนอง กล่าวคือ เป็นการนำเอาทรัพย์สินมาเป็นประกันการจ่ายและชำระหนี้ แม้กระนั้น เป็นการจำนองเพื่อเป็นประกันหนี้ ซึ่งได้ลงบัญชีจำนำอสังหาริมทรัพย์อื่นเป็นประกันไว้แล้ว โดยให้ถือจำนวนเงินที่จำนองและข้อตกลงกติกาอื่นๆตามคำสัญญาจำนำเดิม ได้แก่ นาย ก. จำนำ

ที่ดินแปลงหนึ่งเพื่อเป็นประกันหนี้สินกู้หนี้ยืมสินที่ นาย ก. กู้มาจาก นาย ข. จำนวนหนึ่ง ถัดมา นาย ข. มีความคิดเห็นว่าที่ดินที่จำนำราคาถูกกว่าจำนวนเงินที่จำนองเป็นประกัน(เงินกู้ยืม) ซึ่งถ้าเกิดบังคับจำนอง จะได้เงินไม่คุ้มกับหนี้ที่จำนองเป็นประกัน จึงให้ นาย ก. นำที่ดินอีกแปลงหนึ่ง มาจำนำเพิ่มหลักทรัพย์ทำให้อสังหาริมทรัพย์ที่จำนำ

และจำนองเพิ่มหลักทรัพย์เป็นประกันหนี้สินร่วมกันในหนี้รายเดียวกัน (วงเงินจำนำเดียวกัน) ก็เลยอาจกล่าวได้ว่า การจำนำเพิ่มหลักทรัพย์เป็นการนำเอา อสังหาริมทรัพย์มาประกันหนี้สินด้วยกันในหนี้รายเดียวกันสำหรับในการจำนำเพิ่มหลักทรัพย์แม้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่จำนำเพิ่มหลักทรัพย์จะเป็น

คนเดียวกับผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่จำนองเดิมหรือคนละคนก็ได้ และถึงแม้อสังหาริมทรัพย์ที่ จดทะเบียนจะเป็นคนละจำพวกกัน หรือในกรณีที่เป็นที่ดินแม้หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินจะเป็นคนละ ประเภทกันก็สามารถจำนำเพิ่มหลักทรัพย์ได้ เช่น เดิมจำนองที่ดินมีโฉนดที่ดินไว้ ถัดมาจะนำ สิ่งก่อสร้างหรือที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำคุณประโยชน์มาจำนำเพิ่มหลักทรัพย์ก็ทำเป็น แต่จำต้อง จดทะเบียนเพิ่มหลักทรัพย์ให้ถูกเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีอำนาจสำหรับในการจดทะเบียน

4. ปรับเงินให้เพิ่มขึ้นจำนำจำนำความหมาย คือ เดิมจำนำอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นประกันหนี้สินไว้ปริมาณหนึ่งแล้ว ถัดมาคู่อาฆาตได้ตกลงกัน เพิ่มเงินที่จำนองเป็นประกันจากเดิมอีกการขึ้นเงินจากจำนำเป็นประกันเพิ่มจำนวนเงินที่จำนำเป็นประกันดังที่กล่าวมาแล้วแล้ว สำหรับในการปรับเงินขึ้นจากจำนำ

ก็เลยควรมีข้อจำกัดแล้วก็ข้อตกลงอื่นๆเป็นไปตามสัญญาจำนองเดิม ถ้าเกิดจะมีการปรับแก้ข้อจำกัดรวมทั้งข้อตกลงอื่นๆด้วย จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นอีกรายการหนึ่ง ดังเช่น ถ้าเกิดจะมีการปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยในคำสัญญาจำนำด้วย จะต้องจดทะเบียนประเภท ปรับแต่งหนี้อันจำนองเป็นประกันเป็นอีกรายการหนึ่งฯลฯ

และก็สำหรับเพื่อการปรับเงินขึ้นจำนำ ควรจะเป็นประกันหนี้สินซึ่งมีลูกหนี้สินและเจ้าหนี้ผู้เดียวกัน ทั้งจะต้องเป็นหนี้อันมีมูลหนี้สินเช่นเดียวกัน อย่างเช่น เดิมจำนองไว้

เพื่อเป็นประกันการกู้ยืมเงินในการปรับเงินขึ้นก็ควรเป็นรับรองการกู้ยืมเงินด้วยเป็นต้น ถ้าหากเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ คนละคน หรือเป็นมูลหนี้คนละจำพวกกัน จะปรับเพิ่มเงินจากจำนำไม่ได้ ต้องจดจำท่วมลำดับที่สองการปรับเงินเพิ่มขึ้นจากจำนำจะขึ้นจำนวนกี่ครั้งก็ได้ โดยเจาะจงปริมาณครั้งพ่วงประเภท เป็นต้นว่า “ปรับเงินให้เพิ่มขึ้นจากจำนำครั้งอันดับแรก” เป็นต้น

5. ผ่อนเงินต้นจากจำนำความหมาย หมายถึง เดิมจำนำอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นประกันหนี้สินไว้จำนวนหนึ่งแล้ว ถัดมาได้มีการใช้หนี้ ที่จำนำเป็นประกันเล็กน้อย แล้วก็ส่วนที่เหลือยังคงมีการจำนำเป็นประกันอยู่ถัดไปตามเดิมซึ่งกรณีแบบนี้ ถ้าเกิดไม่ลงทะเบียนจะเอาขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้ ตามนัยมาตรา 746 แห่ง เปรียญพ.พ.การผ่อนคลายเงินต้นจำนำจะมีการผ่อนต้นสักจำนวนกี่ครั้งก็ได้โดยเจาะจงจำนวนครั้งต่อท้ายประเภท ได้แก่ “ผ่อนต้นเงินจากจำนองครั้งอันดับหนึ่ง” เป็นต้น

6. ปรับแก้หนี้สินอันจำนองเป็นประกันความหมาย คือ การเขียนทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนเกี่ยวกับการจำนองที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว ในสิ่งซึ่งมิใช่สาระสำคัญแห่งหนี้ ตัวอย่างเช่น

1. แก้ไขอัตราดอกเบี้ย (หนังสือกรมที่ดิน ที่ 2165/2504 ระบุวันที่ 20 เดือนมีนาคม 2504)

2. เดิมจำนำไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ของ นาย กรัม แล้วก็ นาย ข. ถัดมาตกลงเลิกประกันหนี้สินของนาย ก. คงรับรองหนี้สินของบ นาย ข. เพียงผู้เดียว (คำบัญชากรมที่ดิน ที่ 10/2500 ลงวันที่ 27 เดือนกันยายน 2500)

3. เดิมนาย กรัม และก็นาย ข. จำนำไว้เพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ยืมนาย ก. แล้วก็นาย ข.กู้ร่วมกันไว้เป็นจำนวน 500,000 บาท ถัดมาตกลงกันให้ นาย ก. และก็นาย ข. มีหน้าที่จะต้องใช้หนี้ใช้สินคนละ 250,000 บาท และนาย ก.ได้จ่ายและชำระหนี้ส่วนของตนแล้ว คู่อริจึงตกลงกันให้ที่ดินส่วนของ นาย ก. พ้นการจำนอง ส่วนที่ของนาย

ข. อาจจะจำนำเป็นประกันหนี้ที่นาย ข. จำต้องจ่ายจำนวน 250,000 บาท อยู่ (หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0608/10354 ระบุวันที่ 2 ก.ค. 2512 เวียนโดยหนังสือกรมที่ดิน ค่าธรรมเนียมขายฝาก กรมที่ดิน ที่กระทรวงมหาดไทย0608/10717 ลงวันที 10 ก.ค. 2512)ดังได้กล่าวแล้วว่าการจำนำมีหนี้ที่จำนำเป็นประกันอันนับได้ว่าเป็นส่วนประธานกับสัญญาจำนำ

อันถือได้ว่าเป็นส่วนอุปกรณ์สำหรับชนิดการเขียนทะเบียนนี้ถ้าเกิดพิเคราะห์ตามถ้อยคำที่ใช้อาจจะทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นการปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เป็นหนี้อันจำนำเป็นประกัน แต่ว่าจากแนวทางที่กรมที่ดินวางไว้ตามคำสั่งกรมที่ดิน ที่ 10/2500 ระบุวันที่ 27 กันยายน 2500 ตามที่รายงานใน(2) เห็นได้ว่ากรณีดังที่กล่าวถึงแล้วเป็นเพียงแต่การแก้ไข

ในส่วนของสัญญาจำนองเท่านั้นกล่าวอีกนัยหนึ่งจากเดิมจำนองเป็นประกันหนี้สินนาย กรัม และนาย ข. แก้เป็นจำนอง เป็นประกันเฉพาะหนี้สินของนาย ข. เพียงผู้เดียวส่วนหนี้ที่จำนำเป็นประกันจะเป็นยังไงคำบัญชากรมที่ดิน ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่ได้เอ่ยถึงด้วย พูดอีกนัยหนึ่ง ไม่ปรากฏว่าหนี้ที่จำนำเป็นประกันได้มีการจ่ายหนี้หรือปรับปรุงแก้ไข

เปลี่ยนแปลงยังไงเลย อย่างไรก็ดีเพียงพอสรุปสาระสำคัญของการจดทะเบียนจำพวกนี้ได้ว่าเป็นการ ปรับแก้เกี่ยวกับการจำนองที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ในสิ่งซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญแห่งหนี้ หากเป็นการปรับแก้ สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ต้องจดทะเบียนในชนิดปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนำ (แปลงหนี้สินใหม่) ดังจะกล่าวถัดไปในประเด็นที่ 7

กลับสู่หน้าหลัก