ดูหนัง countdown

ดูหนัง countdown

ดูหนัง countdown “อยากทราบไหม คุณจะต้องตายวันไหน!” Countdown เล่าราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีหลอน ๆ เมื่อนางพยาบาลสาว ควินน์ แฮร์ริส (Elizabeth Lail จากซีรีส์เรื่อง You) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่แพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น ไม่ว่าใคร ๆ ก็จำเป็นต้องโหลดติดมือถือ ที่สามารถคาดเดาเวลาตายได้ใน กี่ปี กี่วัน กี่ชั่วโมง กี่นาที และก็ กี่วินาที และมันแจ้งว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ 3 วัน แค่นั้น ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจะต้องมานะหาวิธีเอาตัวรอดก่อนที่จะไม่หลงเหลือเวลาแม้กระทั้งวินาทีเดียวหนังมีพล็อตที่น่าดึงดูดมาก มีความสดใหม่ในเรื่องของไอเดีย แม้จะเล่าตามสูตรไปหน่อย ที่อยากได้หาวิธีเอาตัวรอดจากความตายที่ตามมาคุกคาม อารมณ์เดียวหนังตระกูล Final Destination, The Ring ผสมหนังซาตานมารที่ดูกันบ่อย ๆ หนังมาพร้อมบรรยากาศหลอน ๆ แล้วก็ใส่ลูกเล่น Jump Scare แบบเอาจริงเอาจัง และก็มีชั้นมีเชิงสำหรับในการหลอกจนกระทั่งทายใจทางได้ยาก เชื้อเชิญให้ตกใจอยู่หลายระดับ แต่ว่าก็ยังมีช่วงผ่อนเบาด้วยมุกตลกหยอดเป็นช่วง ๆ ไม่ให้เครียดเหลือเกินส่วนตัวถูกใจการเล่าเรื่องในช่วงครึ่งแรก ให้ความรู้สึกชวนตื่นเต้นเสมือนตอนดูหนัง Final Destination ที่ผู้แสดงโดนตามโจมตีครั้งละคน ๆ จนกระทั่งต้องหาแนวทางคดโกงความตายให้ได้ แต่ว่าพอเพียงครึ่งหลังหนังเริ่มเข้าสู่โหมดเหนือธรรมชาติแบบสุดกำลัง ด้วยการเล่าสูตรตามสไตล์หนังซาตานฝรั่งแบบเดิม ๆ ทำให้โทนหนังที่กำลังสนุกและก็น่าดึงดูดขึ้นเรื่อยกลับเริ่มแผ่ว ๆ ปลายลงและก็ขาดความสดใหม่อย่างน่าเสียดาย ถึงแม้ว่าตอนสุดท้ายจะปลายเปิดไว้ให้สร้างภาคต่อ แม้ได้คนเขียนบทดี ๆ ครีเอท ๆ หน่อย นี่บางทีอาจต่อยอดเป็นแฟรนไชรส์หนังสยองขวัญใหม่ได้อีกหัวข้อเลยก็ว่าได้

“Countdown” เคาท์ดาวน์ตาย

ถัดจากนี้คุณจะรู้เรื่องราวล่วงหน้าได้ว่าจะ ตายเมื่อไร! เมื่อนางพยาบาลสาวดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่สามารถทำนายเวลาตายได้ แล้วก็มันแจ้งว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 3 วันเท่านั้น คุณต้องพยายามหาวิธีเอาตัวรอดก่อนจะไม่หลงเหลือเวลาแม้แต่วินาทีเดียวสารภาพกันตรง ๆ ว่าดูตัวอย่าง พล็อต เนื้อเรื่องแล้วไม่มีความรู้สึกว่าสดใหม่ต้องการดูสักเท่าไหร่ แต่ตกลงใจไปดูประเด็นนี้เลยก็เนื่องจากว่า หนังได้นักแสดงสาว “เอลิซาเบ็ท เลล” (Elizabeth Lail) มารับบทนำ โดยไม่นานมานี้ เธอได้ฝากผลงานซีรีส์ Netflix เรื่อง “You” ที่ติดท็อป 1 ในท็อป 5 ที่คนดูสูงสุดของปี 2018 และกำลังเริ่มจะมีฤดูกาล 2 ปลายเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งถ้าคนไหนกันได้มอง You

มีติดใจคุณกันทุกคนในบทนางเอกที่มีบุคลิกลักษณะไม่เหมือนกับทั่วไปมาก (ไม่สปอยล์เพราะว่าเป็นจุดพลิกเรื่องต้องไปดูกันเอาเองขอรับ) แม้ว่าจะเป็นศิลปินหน้าใหม่พึ่งเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก (ก่อนนี้เล่นแม้กระนั้นหนังชุดทางโทรทัศน์) แต่ว่าเสน่ห์เหลือแหล่ทั้งรูปพรรณสัณฐาน ยิ่งดวงตาสีเขียวของคุณนี่ลากจิตใจได้เลยแม้ว่าว่าผมจะมองนางเอกเป็นหลักและก็เสน่ห์ของเธอในประเด็นนี้ก็ยังไม่เสื่อมคลาย แม้กระนั้นที่มีเซอร์ไพรส์ในเรื่องเป็นหนังมีอะไรมากกว่าที่เห็นในแบบอย่างพอสมควรเลยครับผม

แม้ว่าจะพอเพียงเดาได้ แม้กระนั้นก็จะต้องเห็นด้วยผู้สร้างไม่ได้เอาแอพมาผูกเล่นแบบคิดง่าย ๆ หนังมีอ้างอิงที่มาที่ไป โยงไปพบเรื่องราวในไบเบิลได้เข้าท่าเหมือนกัน กับหลักสำคัญที่ทุกคนบางครั้งก็อาจจะจำต้องเคยแว่บคิดอยากทราบตัวเองจะตายเมื่อไร หนังเล่นเรื่องบันดาลใจอยากรู้ในชะตากรรมของตัวเราเองมาเล่น ซึ่งก่อนนี้ก็มีพล็อตแอบคล้ายคลึงกันเรื่องความตายตามล่าคนที่ทราบดีว่าตนเองถูกตาย อย่าง Final Destination 7 ถูกตาย คดโกงความตาย ที่ทำมา 5 ภาคแล้วหยุดหายไปเฉย ๆ แม้กระนั้นสิ่งที่ Countdown

ต่างออกไปหน่อยนึงเป็นข้อความสำคัญ การยอมรับโชคชะตาเนื่องจากว่าเลือกใคร่รู้เวลาตายเอง หนังชวนให้คิดเหมือนกัน ว่าในความเป็นจริงแล้ว ถึงพวกเรา เคยมีความคิด ว่าจะตายเมื่อใด แต่ถ้าหากมีอะไรสักอย่าง มาให้บอกให้ทราบ โดยให้เลือกว่าจะดูหรือไม่ดู ด้วยตัวคุณเอง คุณยังจะเลือกรับรู้วันตาย ของตนอยู่ไหม ซึ่งหนังเอาส่วนนี้มาเล่นโดยมีปมดราม่าในจิตใจของตัวละครผูกติด ไว้อีกครั้ง ที่เกี่ยวกับข้อผิดพลาดเล็ก ๆ แต่ว่าแปลงเป็นทำให้มีการเกิดเรื่องรุนแรง ถ้าหากเราโตกับความรู้สึกผิดทุกวี่ทุกวันจนกระทั่งอยากตายอยู่แล้ว เราน่าจะยอมรับโชคชะตาเวลาตายของพวกเราจริง ๆ เพื่อไถ่บาปดีหรือไม่?

ถ้าถามว่าหนังหัวข้อนี้น่าสะพรึงกลัวไหม

ผมจำเป็นต้องกล่าวว่ามันแอบเฮฮาซะมากกว่า เอาจริงเอาจัง ๆ ผมว่ามันเป็นหนังตลกสยองขวัญเน้นย้ำจั๊มสแกร์ (มุกเสียงดังผีโผล่ตุ้งแช่) หนังตั้งใจเล่นกับฉากจั๊มสมึงร์เป็นหลัก ซึ่งหากคนใดกันแน่ขวัญอ่อนก็บางครั้งอาจจะน่ากลัวได้เลยเนื่องจากใส่มาซะเยอะ แม้กระนั้นถ้าหากคนใดกันแน่เคยชินกับมุกอย่างนี้ที่จะต้องกระทำตัวละครให้มองทึ่ม ๆ กว่าคนปกติแบบค่อย ๆ ไปส่องมองอาจจะเคยชิน เพราะว่าเมื่อไรก็ตามที่ผู้แสดงเริ่มใคร่รู้ทำอะไรโง่ ๆ มุกนี้ต้องมา แต่เอาว่าหนังก็ทำได้ดีไม่ขนาดดูไปดุด่าไปกับความโง่ของตัวละครหรอกครับ เพราะเหตุว่าจริง ๆ มันออกแนวตลกโปกฮาแบบบอกไม่ถูกปนมาด้วย จากนักแสดงสมทบในเรื่องอย่าง คนขายโทรศัพท์เคลื่อนที่เจลเบรคแฮ็กแอพได้

หรือนักบวชที่คลุ้มคลั่งปีศาจซาตานแบบเหมือนพวกป๋องส่องหาวิญญาณอะไรแบบนั้น คืออยากเจอมานานแล้ววววรับรองว่าถึงแม้หน้าหนังจะมองทุนต่ำ (ซึ่งก็ต่ำจริง ๆ แค่ 8 ล้านเหรียญ) พล็อตดูงั้น ๆ แม้กระนั้นหนังมีอะไรในเรื่องพอควร และเล่นกับการหาทางออกมาจากชะตาชีวิตได้เหมาะสมอยู่ไม่น้อย คือไม่สามารถเล่าได้เลยว่าเป็นยังไง แต่ถ้าใครที่มอง You มาก็อาจคิดเหมือนกันว่า “นางเอาอีกแล้ว”

บทในหัวข้อนี้ก็เช่นเดียวกันหนังเปลี่ยนแปลงนางเอกได้อย่างน่าสนใจ และทำให้โทนหนังแปรไปเลย แถมยังหวนกลับมาจบได้สวย ๆ แม้จะไม่เซอร์ไพรส์ในขั้นตอนการ แม้กระนั้นหนังผนวกรวมแนวทางแก้ปัญหาปมชีวิตของนางเอกกับน้องสาวไปพร้อมกัน ซึ่งดูดีอย่างยิ่งจริง ๆ แถมยังมีโอกาสทำภาคต่อเก๋ ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งมาอีกก็ดูนะครับ แต่ว่าก็สงสัยว่าจะมีอะไรเหลือให้เล่นอีก เสนอแนะว่าถ้าถูกใจนางเอกคนนี้ ชอบไฟนอลเดสติเนชั่นมาก่อน หรือต้องการดูหนังสยองขวัญคละเคล้าขำ ๆ ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าเกิดคาดหวังเรื่องราวสมเหตุผลมุ่งมั่น หรืองานสยองขวัญจำเป็นต้องแปลกใหม่แหวกแนว อันนี้บ้ายบายหัวข้อนี้ไปเลยครับ

หนังเล่าเรื่องราวของ ควินน์ แฮร์ริส (เอลิซาเบ็ท เลล) พยาบาลสาวที่มาฝึกการทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งคุณเป็นเด็กสาวธรรมดา ๆ ที่ตั้งใจฝึกการทำงานเพื่อสานฝันได้รับบรรจุปฏิบัติงานที่นี่ให้ได้ แต่ทว่าอยู่มาวันหนึ่งที่ควินน์ไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง เธอก็ได้รู้จักกับแอปพลิเคชันใบหน้าแปลก ๆ ที่ชื่อ ‘Countdown’

ด้วยความคะนองและก็บรรยากาศครื้นเครงที่พาไป ทำให้เธอก็ยอมโหลดแอปฯ ไปด้วย

ซึ่งปรากฏว่า แอปฯ กล่าวว่าคุณเหลือเวลาอีกไม่กี่วันเท่านั้น! ถึงแม้ ควินน์ จะรู้สึกว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าอีกจิตใจหนึ่งก็แอบกังวล แล้วสุดท้ายเหตุการณ์แปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นกับคุณจริง ๆ หนังเรื่องนี้ได้โอกาสมสร้างมาจาก Final Destination รวมทั้ง Paranormal Activity มาด้วย โน่นทำให้แนวทางของ Countdown

นั้นก็ราวกับนำแฟรนไชส์หนังโกงตายผสมหลอนในสมัยก่อนอย่าง Final Destination หรือ The Ring มาประสมประสานกัน ซึ่ง Countdown มันแอบสะท้อนมุมที่คนเราในยุคนี้ติดสมาร์ตโฟนกันกระทั่งเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกายไปนั้นมาวางเป็นคอนเซปต์หลอน ๆ เหมือนใส่เมสเซจเป็นบทเรียนเชิงเตือนสติวัยรุ่นยุคนี้อยู่ลึก ๆ

สำหรับตัวเรื่องส่วนใหญ่ไม่ต่างจากหนังสยองขวัญทั่ว ๆ ไปมากสักเท่าไรนัก แต่ว่าคอนเซปต์แอปฯ มรณะ ที่ถูกแชร์ถัดไปเรื่อยนั้นทำให้หนังดำเนินเรื่องได้เรื่อยรวมทั้งสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจได้อยู่เสมอ ซึ่งไอ้สไตล์ตุ้งแช่ jump scare เนี่ย อย่างไรก็ใช้หาเลี้ยงชีพได้ตลอดสำหรับหนังสยดสยองฟอร์มเกรดบี เรียกว่าเสียเงินมาแล้วยังไงก็ได้ความลุ้นระทึก ผวาตุ้งแช่กลับบ้านได้ตามเป้าจะว่าไป หากว่าองก์หลัง ๆ หนังจะออกสมุทรไปหาปลาซะไกลอยู่บ้าง

แต่ว่าพาร์ตสำคัญก็มีจุดพีคที่แอบทรงอำนาจอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวข้อครอบครัวและก็คนใกล้ตัว หนังเปรียบเทียบแอปฯ รวมทั้งสมาร์ตโฟน อยู่ตรงกันข้ามกับความเกี่ยวพันแบบมนุษย์จริง ๆ พร้อมเสนอคำถามว่าเมื่อถึงเวลาที่คุณจะสูญเสียสิ่งที่จำเป็นในชีวิตคุณจริง ๆ คุณจะเลือกรักษาอะไร ส่วนตัวรู้สึกว่า เอลิซาเบ็ท มีเสน่ห์ดี เป็นสาวผมบลอนด์ที่ดูแล้วแจ่มใสไม่เบื่อ หากว่าออร่าอาจไม่ถึงหนังใหญ่ แม้กระนั้นรวม ๆ แล้วแบกพาหนังหัวข้อนี้ไปได้ไม่อัปลักษณ์

กลับสู่หน้าหลัก https://pubbellyboys.com