Kingdom Ashin of the North (2021) ชนโรง

Kingdom Ashin of the North (2021) ชนโรง

Kingdom Ashin of the North (2021) ชนโรง ก่อนที่จะมีการเผชิญหายนะจากฝูงซอมบี้ฟื้น อาณาจักรโชซอนมีปมปัญหาไม่ตรงกันกับแคว้นรอบๆอยู่หลายชนเผ่า หนึ่งในพื้นที่พิพาทจนกระทั่งสร้างความตึงเครียดก็คือดินแดนทางภาคเหนือ ที่ชาวหนี่ว์เจิน (女真 บรรพบุรุษของชาวแมนจู) รวมตัวกันตั้งตนเป็นหมู่ชนเผ่าพาหน้าจอวี อันอดทน ยิ่งใหญ่รวมทั้งน่ายำเกรงต้นกำเนิดสมุนไพรฟื้นก็อยู่ทางตอนเหนือนี้ ตรงรอบๆชายแดนพื้นที่หวงห้ามที่ชื่อว่า “พเยซากุน” ใกล้กับถิ่นอาศัยของชนเผ่าพาหน้าจอวี และชิดกับดินแดนชนเผ่าซองหน้าจอยาอินมันถูกค้นพบโดย เด็กผู้หญิงอาคุ้นชิน (คิมชีอา) โดยเบื้องแรกเธอเจอไม้ดอกสีม่วงพันธุ์หายาก กลางป่าลึก จนได้เห็นมากับตาว่า มันเป็นสมุนไพรพิเศษ ที่สามารถฟื้นคืนชีพ ชุบชีวิตผู้ตายได้ รวมทั้งในเวลาถัดมาหายนะก็เกิดขึ้น เมื่อมีใครซักคนนำมันไปช่วยชีวิตคนตาย จนได้เปลี่ยนเป็นผีดิบหิวเหลือดอาชิน เล่านี้ให้ ทาฮับ (คิมรเวฮา) ผู้เป็นบิดา Kingdom Ashin of the North (2021) พากษ์ไทย แล้วก็เป็นหัวหน้าผู้ดูแลชาวซองหน้าจอยาอินฟัง แต่ว่าถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว ระหว่างนั้นแม่ของอาเคยชินได้ล้มป่วยลง เด็กสาวจึงตกลงใจเริ่มเดินทางตามหาไม้ดอกสีม่วง สมุนไพรที่จะสามารถช่วยรักษาแม่ แต่แล้วกลับทำให้เธอจำเป็นต้องพบกับโศกนาฏกรรม และก็การสิ้นไปอันใหญ่หลวงซึ่งทำให้ อาเคยชิน (จอนจีฮยอน) เติบโตขึ้นมาพร้อมความแค้น คุณรอคอยวันที่จะได้ทวงแค้นผู้ที่ทำลายครอบครัว รวมทั้งคนที่ฆ่าบิดาของเธอ!
“ถ้าทำให้พวกนั้นร้องไห้ออกมาเป็นสายโลหิตได้ ไม่ต้องทำในขณะนี้ก็ได้ ปีถัดไป…ปีหน้าก็ได้ ช่วยเอาคืนให้บิดาเราด้วย”รายชื่อดารา คนไหนกันแน่เป็นคนใดกัน ในซีรีส์ Kingdom: Ashin of the North

• จอนจีฮยอน รับบทเป็น อาคุ้นชิน หญิงสาวลึกลับจากเผ่าเหนือ
• คิมชีอา สวมบทเป็น อาชิน (วัยเด็ก) ลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านซองจอยาอิน ผู้ค้นพบสมุนไพรฟื้นคืนชีพ
• พัคบยองอึน สวมบทเป็น ไม่นชีเกลื่อนกลาด หัวหน้ากองทัทหทารผู้จงรักภักดี
• คิมรเวฮา เล่นบทเป็น ทาฮับ พ่อของอาเคยชิน หัวหน้าหมู่บ้านซองจอยาอิน

KINGDOM: ASHIN OF THE NORTH คุณลักษณะเด่นประสิทธิภาพสูงอีกทั้งบทที่ดีมาก

การกำกับที่ทำเรื่องสลับซับซ้อนให้ง่ายและก็โคตรสนุก การแสดงที่ตรึงสายตาและเชื้อเชิญให้คิดตามความคิดภายในของตัวละคร แล้วก็แน่ๆคะแนนหนังได้ตีบวกให้ตัวซีรีส์ยิ่งน่าติดตามขึ้นไปอีกจุดพิจารณาซีจียังมีความตบตา และน่าเสียดายที่หนังเหลือพื้นที่ให้จอนจีฮยอนใช้ความถนัดการแสดงเชิงลึกและก็ปรับปรุงนักแสดงได้น้อยไปหน่อยการปรากฏตัวของสตรีลึกลับข้างหลังสงครามชิงบัลลังก์โชซอนจบลงในซีรีส์ซีซัน 2 กำลังได้รับการเปิดเผยภูมิหลังในหนังประเด็นนี้ ซึ่งยังเฉลยคำตอบสิ่งที่ทำให้เกิดดอกไม้ชุบชีวิตคนที่กระตุ้นให้เกิดคนเสียชีวิตเดินดินระบาดไปทั่วอาณาจักรโชซอนด้วยหลังความสงสัยในตอนสุดท้ายของซีซันที่ 2 ซึ่งเปิดเผยหน้าของศิลปินดังอย่าง จอนจีฮยอน หรือ ยัยตัวร้าย จากหนัง ‘My Sassy Girl’

ที่ห่างหายจากวงการไปนานหลายปี มาเผยตัวเป็นตัวละครใหม่ที่ใบ้ว่าฯลฯตอของเรื่องราวทั้งผองด้วยความตื่นเต้นที่กำลังจะได้ดูเรื่องราวซีซันต่อไปของซีัรีส์ ‘Kingdom’ ก็ยิ่งสองเท่าไปอีก แต่จะทำเช่นไรเมื่อขั้นตอนถ่ายทำย่อมยากขึ้นใช้เวลานานขึ้น เมื่อสเกลเรื่องราวใหญ่มหึมาจากการรบเมืองชายแดน เปลี่ยนเป็นสงครามกลางเมืองหลวง และกำลังกลายเป็นการทำศึกคุ้มครองป้องกันอาณาจักร แฟนซีรีส์จะทนยั้งใจรอคอยได้นานเกิน 1-2 ปีได้ไหม นี่เป็นปัญหาที่คณะทำงานอาจขอกั้นด้วยหนังที่จะขยายความเข้าใจจักรวาลของซีรีส์ได้ไปพร้อมกันเรื่องราวของหนังจับใจความย้อนไปเป็นเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เรื่องราวในซีรีส์ในชายแดนภาคเหนือของโชชอนที่กำลังประสบปัญหากับกลุ่มของผู้คนเผ่าตะลอนหนี่ว์เจินที่รวมเป็นประเทศที่ชื่อ พาจอวี

เพราะฉะนั้นกองทัพโชชอนซึ่งนำโดยรองแม่ทัพ มินจีเกลื่อนกลาด ผู้อุทิศตนเพื่อชาติซึ่งเคยปรากฏตัวในซีรีส์มาก่อนแล้ว ก็เลยอาศัยชนหมู่น้อยของหนี่ว์เจินกลุ่มหนึ่งที่อยู่กั้นกลางรอเป็นสายลับเพื่อรายงานการเปลี่ยนแปลงของพาหน้าจอวีโดยเสนอจะช่วยทำให้ได้เป็นข้าราชการของโชซอนถัดไป แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุบางสิ่งบางอย่างในเขตป่าลึกของโชซอนทำให้มีอาการชาวพาหน้าจอวีตายหลายท่าน โดยทหารโชชอนกล่าวถึงว่าเป็นการปฏิบัติของเสือร้าย ก็กลับยิ่งสร้างความข้องใจของพาหน้าจอวีกระทั่งเสี่ยงจะแปลงเป็นจุดเริ่มแรกของการรบขึ้น

จอนจีฮยอนรับบทบาทเป็น อาคุนชิน

ตัวหลักของเรื่องที่วัยเด็กของเธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านคนกลุ่มน้อยหนี่ว์เจิน โดยพ่อของเธอเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยรายงานโชชอนอยู่เสมอ นอกจากเธอยังได้ค้นพบดอกไม้ต้องห้ามที่ซุกซ่อนไว้ในป่าลึกพร้อมสลักการตักเตือนว่า ดอกไม้นี้ชุบชีวิตคนเสียชีวิตได้ ถ้าเกิดแม้กระนั้นต้องรับผลในสิ่งที่ตามมา รวมทั้งหลังจากหมู่บ้านของเธอตกเป็นเหยื่อการขัดกันของพาหน้าจอวีและก็โชชอน อาชินจึงระเหระหนมาขอให้รองแม่ทัพโชชอนไม่นจีเกลื่อนกลาดซึ่งแสดงโดยดาราคุณภาพอีกคนอย่าง พักบยองอึน นั้นช่วยล้างแค้นให้บิดาของเธอ แลกเปลี่ยนกับการที่เธอจะสอดแนมพาจอวีให้จำเป็นต้องยอมจิตใจในความชำนาญในบทหนังของ คิมอึนฮี

ซึ่งสามารถใช้นักแสดงมินจีรกที่พวกเราเคยรู้จักมาพลิกประเด็นการนำเสนอว่าความรักชาติอาจไม่ได้มีเพียงมุมที่สวย และก็ยังส่งผลให้ตัวอาคุ้นชินนั้นยิ่งมีปมความไม่ลงรอยกันที่น่าสนใจน่าเห็นใจขึ้นไปอีก ไม่เพียงแค่ในหนังเรื่องนี้ แต่ยังโยงไปถึงความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ของนักแสดงนี้ในซีรีส์ซีซัน 3 กับพวกกรุ๊ปตัวนำด้วย และก็ผู้ชมอาจจะต้องเอาใจช่วยทั้งคู่ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกันเลยทีเดียว นี่คือความสุดยอดที่สุดในบทอันย้อนถกเถียงแทงทะลวงอารมณ์ความคิดของผู้ชมด้านโปรดักชันเห็นด้วยว่าผู้กำกับ คิมซองฮุน นั้นคุมซีรีส์สเกลใหญ่มาได้อย่างดีแล้ว

พอมาทำเป็นหนังก็ยิ่งอยู่มือเข้าไปอีก เนื่องจากว่าเขาจับจุดเน้นได้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องพึ่งฉากใหญ่โตวิจิตรตระการตามากแต่ว่าคุมโทน ทำให้ผู้ชมดิ่งจมอย่างกับไปอยู่ในป่าชายแดนโชชอนได้อย่างอิ่มอารมณ์ มีฉากโชว์ มีฉากเน้นสวย เป็นประสบผลในด้านดีทั้งด้านสุนทรียะรวมทั้งด้านความสนุกสนาน ยิ่งการเล่าเรื่องอันซับซ้อนมีการเมืองหลายฝักฝ่ายในพื้นที่เดียวที่มาจากปากกาของคิมอึนฮีนั้นไม่ได้ง่ายเลยที่จะทำให้เล่าเรื่องได้ง่าย แต่คิมซองฮุนกลับทำได้ดีทีเดียว และที่พอใจมากๆได้แก่การใช้กิมมิกข้าวของตัวอย่างเช่น ธนูนางเอกเคยได้เห็นก็เฉลยคำตอบเรื่องราวอะไรบางอย่างได้

ทำให้หนังมีความลื่นไถลไหลและเท่ในการเล่าเรื่องด้วยหนังยังตอบสนองรสความต้องการมองเห็นของผู้ชมได้ดิบได้ดี เพราะหากเล่ากันเพียงแต่ประเด็นการเมืองของคนเข้มข้นมันคงจะหนักไปเสียทุกส่วน มันก็เลยป้อนพวกเราด้วยประสบการณ์หนังผจญภัยแบบหนังคนล่าเสือสมิง ไปจนกระทั่งหนังล่าล้างแค้นของสตรีตัวเล็กๆที่ยิ่งหนังปูดราม่าความแค้นได้เอาจริงเอาจังมากแค่ไหน

ฉากส่วนท้ายของเรื่องก็ยิ่งสุมไฟความมันได้มากแค่นั้น นี่คือความชำนาญในเชิงดราม่าที่ชาติเกาหลีเขาชำนาญเป็นพิเศษทีเดียวจุดท้วงติงที่พอเพียงเห็นได้ชัด ก็อาจจะเป็นรอยแผลนิดๆหน่อยๆตัวอย่างเช่นผู้แสดงที่ทำจากซีจียังมีจุดลอยตบตาอยู่ ซึ่งหนังพยายามซ่อนด้วยการตัดต่อที่ไวอยู่สุดแต่บางฉากที่แช่ภาพนานๆก็ไม่รอดเลย บางทีอาจเป็นความโชคร้ายของหนังที่เราเพิ่งจะได้ชมซอมบี้เสือเริ่ดๆไปใน ‘Army of the Dead’ เมื่อเร็วๆนี้ก็เลยยังมีภาพเปรียบเทียบชัดอยู่ นอกเหนือจากนี้บางทีอาจไม่ใช่ข้อแย้งที่เด่นชัดก็คือความโชคร้าย ที่หนังอาจยังคงใช้ความเป็นจอนจีฮยอนได้ไม่คุ้มนักเพราะหากแม้คุณจะมีคุณภาพการแสดงที่ดีแต่กว่าเธอจะได้ออกโรง

ผู้แสดงก็ปรับปรุงไปมากมายจนกระทั่งมีติดอยู่แรกเตอร์หลักที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ไปแล้ว น่าเสียดายที่ได้มองเห็นการพัฒนาอารมณ์เชิงลึกด้วยฝีมือของคุณไม่มากนักต้องสารภาพว่า ‘Kingdom: Ashin of the North’ ถูกผลิตขึ้นด้วยแนวทางคิดที่ฉลาดเฉลียวทั้งในด้านการเล่าเรื่องแล้วก็การตลาด สมรรถนะของหนังยาวเรื่องนี้มิได้เพียงมากั้นรอคอยระหว่างที่ซีรีส์ซีซันที่ 3 ยังไม่มาถึง เพื่อไม่ให้กระแสหายนานเหลือเกิน ถ้าแต่ในแง่การตลาดมันยังช่วยล่อใจผู้ชมหน้าใหม่ที่ยังจดๆจ้องๆไม่ดูตัวซีรีส์เพราะยังไม่ว่างมากพอ ให้ทดลองชิมลางด้วยการดูหนังยาวชั่วโมงครึ่งที่อยู่ร่วมจักรวาลเดียวกันก่อนได้ รวมทั้งเชื่อเถอะว่าเบ็ดรสจัดจัดจ้านประเด็นนี้ จะตกแฟนหน้าใหม่แล้วก็บำเรอแฟนหน้าเก่าที่กำลังลงแดงได้อย่างอยู่มือทีเดียว

‘ซอมบี้’ ใน Kingdom เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากอะไรบ้าง

อย่างไรก็แล้วแต่ การเป็นซอมบี้ในซีรีส์ Kingdom นั้นมีความซับซ้อนที่อาจทำให้หลายท่านงงอยู่บ้าง ซึ่งจะขออธิบายให้รู้เรื่องดังนี้ซอมบี้ที่เกิดขึ้นมาจากสมุนไพรฟื้นคืนชีพ – ซอมบี้ชนิดนี้หากไปกัดคนแล้ว คนที่ถูกกัดจะไม่เปลี่ยนเป็นซอมบี้ แต่ว่าร่างกายจะเย็นเฉียบ ป่วยไข้ แล้วก็ตายลงโดยศพจะติดเชื้อ มีตัวหนอนผสมอยู่ในกระแสเลือด ตัวอย่างของซอมบี้ชนิดนี้คือกษัตริย์ซอมบี้ที่เกิดขึ้นจากด้านการกินศพติดเชื้อ – ซอมบี้ประเภทนี้เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของกองทัพซอมบี้ในโชชอนอย่างที่เราเห็นกันในภาคแรก

เมื่อมีการนำร่างของผู้ช่วยหมอ (ศพติดโรคด้วยเหตุว่าถูกซอมบี้ประเภทแรกกัด) ไปประกอบอาหาร คนที่รับประทานเข้าไปจะตาย กลายเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ที่เมื่อกัดคนเข้าไปแล้ว คนที่ถูกกัดจะเปลี่ยนเป็นซอมบี้ตามไปด้วยซอมบี้ที่ถูกซอมบี้กลายพันธุ์กัด – เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการถูกซอมบี้จำพวกที่ 2 กัดอย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งผองนี้เป็นเพียงแค่เนื้อหาเล็กน้อยที่เก็บเกี่ยวมาจากซีรีส์ ‘Kingdom ผีดิบคลุ้มคลั่ง บัลลังก์เดือด’ ฤดูกาล1, 2 และภาคพิเศษเพียงแค่นั้น ข้อจำกัด รายละเอียดต่างๆน่าจะมีการพัฒนาต่อยอดไปอีกในซีซั่น 3 ซึ่งจำต้องรอรับชมกันถัดไป

การเมืองระหว่างโชชอนรวมทั้งชนเผ่าระหกระเหิน
Kingdom เป็นซีรีส์แนวซอมบี้ที่นำประเด็นการเมือง และก็การฉกชิงอำนาจในยุคโชชอน (Joseon) มารวมเข้าเอาไว้ภายในแกนหลักของเรื่อง ส่วนในภาคพิเศษ Ashin of the North นี้ การฉกชิงอำนาจได้ย้ายจากในวังหลวงของอาณาจักรโชชอนไปยังชายแดนทางด้านเหนือ โดยมีความสัมพันธ์กับชนกลุ่มต่างๆ3 กลุ่ม ได้แก่ โชซอน เผ่าหนี่ว์เจิน รวมทั้งเผ่าพาหน้าจอวี

โชชอน – สถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในภาคหลัก มีเมืองฮันยาง (ตอนนี้คือกรุงโซล) เป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเกาหลีหนี่ว์เจิน – เผ่าหนี่ว์เจิน (Nǚzhēn) เป็นชนเผ่าเร่รอนที่กระจายตัวอยู่ทางภาคเหนือของจีน รวมทั้งแหลมเกาหลีตอนบน มีชาวหนี่ว์เจินกลุ่มหนึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ด้านเหนือของประเทศเกาหลีแถบแม่น้ำอัมกก มีชื่อเรียกว่า ‘ซองจอยาอิน’

แต่ว่าถึงแม้ว่าอาศัยอยู่ในโชชอนมานานนับศตวรรษ พวกเขากลัวที่จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพวกเดียวกัน แถมยังถูกเย้ยหยันว่าเป็นพวกทารุณ และต้อยต่ำพาหน้าจอวี – พาจอวี (Pajeowi) เป็นชาวหนี่ว์เจินเผ่าที่ขึ้นชื่อลือนามเรื่องความเข้มแข็ง ชำนาญการรบ มีถิ่นฐานอยู่ติดชายแดนทางด้านเหนือของแว่นแคว้นโชชอนเรื่องในซีรีส์ Kingdom ภาคหลักเกิดขึ้น 3 ปีที่ผ่านมาการทำศึกอิมจิน (สถานะการณ์ญี่ปุ่นยกทัพบุกประเทศเกาหลีในตอนระหว่างปี คริสต์ศักราช 1592–1598)

ในช่วงเวลาที่เรื่องราวในภาคพิเศษเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เป็นตอนที่โชซอนกำลังเฝ้าระวังประเทศญี่ปุ่นยกทัพบุกภาคใต้ จึงหวาดหวั่นว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นมาพร้อมหากพวก ‘พาหน้าจอวี’ ยกทัพบุกทางด้านเหนือ ทางราชสำนักก็เลยหันไปหลอกใช้ชาวหนี่ว์เจินในโชซอน (เผ่าของอาคุ้นชิน) เป็นวัสดุทางการเมือง คอยสืบการเปลี่ยนแปลงของเผ่าพาหน้าจอวีใน Kingdom ภาคพิเศษเราจะพบว่ามีตัวแทนของชน 3 กลุ่มนี้เป็นตัวเดินเรื่องหลัก ยกตัวอย่างเช่น ‘ไม่นชีเกลื่อนกลาด’ ผู้บังคับบัญชาค่ายทหาร (โชชอน) ทาฮับ และก็อาคุ้นชิน (เผ่าหนี่ว์เจินในโชซอน) แล้วก็ไอดากัน (เผ่าพาจอวี)
การบ้านการเมืองระหว่างโชซอนแล้วก็ชนเผ่าเร่ร่อน

Kingdom เป็นซีรีส์แนวซอมบี้ที่นำประเด็นการเมือง และก็การฉกชิงอำนาจในยุคโชชอน (Joseon) มารวมเข้าเอาไว้ในแกนหลักของเรื่อง ส่วนในภาคพิเศษ Ashin of the North นี้ การช่วงชิงอำนาจได้ย้ายจากในวังหลวงของแว่นแคว้นโชชอนไปยังชายแดนตอนเหนือ โดยมีความเกี่ยวพันกับชนกลุ่มต่างๆ3 กลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น โชชอน เผ่าหนี่ว์เจิน และเผ่าพาจอวี

โชชอน – สถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในภาคหลัก มีเมืองฮันยาง (ตอนนี้เป็นกรุงโซล) เป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีหนี่ว์เจิน – เผ่าหนี่ว์เจิน (Nǚzhēn) เป็นชนเผ่าเร่รอนที่กระจายตัวอยู่ทางภาคเหนือของจีน แล้วก็แหลมประเทศเกาหลีตอนบน มีชาวหนี่ว์เจินกลุ่มหนึ่งย้ายถิ่นมาตั้งรกรากอยู่ทางด้านเหนือของประเทศเกาหลีแถบแม่น้ำอัมกก มีชื่อเรียกว่า ‘ซองหน้าจอยาอิน’ แต่ทั้งที่อาศัยอยู่ในโชชอนมานานนับศตวรรษ พวกเขากลัวการที่จะไม่ถูกยอมรับว่าเป็นพวกเดียวกัน แถมยังถูกเหยียดหยามว่าเป็นพวกโหดร้าย และต้อยต่ำพาหน้าจอวี – พาจอวี (Pajeowi)

เป็นชาวหนี่ว์เจินเผ่าที่ลือชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง ช่ำชองการรบ มีถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่ติดชายแดนตอนเหนือของแว่นแคว้นโชซอนเรื่องในซีรีส์ Kingdom ภาคหลักเกิดขึ้น 3 ปีให้หลังการศึกอิมจิน (เหตุญี่ปุ่นยกทัพบุกเกาหลีในช่วงระหว่างปี คริสต์ศักราช 1592–1598) ในเวลาที่เรื่องราวในภาคพิเศษเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เป็นช่วงที่โชซอนกำลังเฝ้าระวังประเทศญี่ปุ่นยกพลบุกภาคใต้

ก็เลยหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นมาพร้อมถ้าพวก ‘พาหน้าจอวี’ เคลื่อนทัพบุกทางเหนือ ทางราชสำนักจึงหันไปหลอกใช้ชาวหนี่ว์เจินในโชชอน (เผ่าของอาชิน) เป็นเครื่องมือทางด้านการเมือง คอยสืบการเปลี่ยนแปลงของเผ่าพาจอวีใน Kingdom ภาคพิเศษพวกเราจะพบว่ามีตัวแทนของชน 3 กลุ่มนี้เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก เป็นต้นว่า ‘ไม่นชีรก’ ผู้บังคับบัญชาค่ายทหาร (โชซอน) ทาฮับ และอาชิน (เผ่าหนี่ว์เจินในโชชอน) รวมทั้งไอดากัน (เผ่าพาจอวี)เงื่อนโกรธแค้นของ ‘อาชิน’

‘อาคุ้นชิน’ เป็นชาวหนี่ว์เจินในโชชอน อาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน Seongjeoyain ติดชายแดนทางด้านเหนือ บิดาของคุณ ‘ทาฮับ’ เป็นผู้นำหมู่บ้านที่มีความซื่อสัตย์กับวงศ์สกุลโชซอนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุว่าอยากให้ราชสำนักยืนยันชนเผ่าของตนว่าเป็นชาวโชซอนอย่างถูกต้อง แต่ว่าเขากลับถูกหลอกใช้เป็นเครื่องไม้เครื่องมือขัดขวางไม่ให้พวกพาหน้าจอวีเข้ามาบุกโชชอนเพียงแค่นั้นในซีรีส์แสดงออกมาแจ่มชัดว่า ‘อาเคยชิน’ ไม่เห็นพ้องที่พ่อยอมเป็นวัสดุของราชสำนักโชซอน แต่ว่าพอพ่อตายเพราะว่าเข้าไปสืบพวกพาหน้าจอวีตามคำสั่งของ ‘ไม่นชีเกลื่อนกลาด’

ผู้บัญชาการค่ายยกพาจิน ตัวคุณเองก็กลับจำเป็นต้องยอมกลายเป็นหมากทางด้านการเมืองของราชสำนักโชซอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อหาทางแก้เผ็ดให้กับบิดาที่ถูกเผ่าพาหน้าจอวีสังหารแต่ตอนท้าย อาคุ้นชินที่ยอมทนได้ทุกอย่างแม้จะจะต้องทำงานมาก นอนในเล้าหมู แล้วก็ยอมเป็นเหยื่อกามารมณ์ของทหารในค่าย ก็มาถึงจุดแตกหักกับโชชอนเมื่อคุณพบความเป็นจริง

(จากจดหมายที่มินชีเกลื่อนกลาดเขียนรายงานราชสำนัก) ว่าผู้เป็นบิดามิได้ตายเพราะถูกส่งไปสอดแนม แต่ว่าถูกคิดคดทรยศเข้าอย่างจังโดยตัว ‘ไม่นชีรก’ เองที่ “สังเวยหมู่บ้านของอาชิน” ด้วยการไปพูดปดหัวหน้าเผ่าพาหน้าจอวีว่า ผู้ที่สังหารชาวพาหน้าจอวีที่เข้ามาหาโสมป่าในโชซอนเป็น ‘ทาฮับ’ เพื่อปัดความรับผิดชอบ พวกพาหน้าจอวีจะได้ทำเพียงแค่ฆ่าล้างบางคนภายในหมู่บ้านของอาชินทั้งหมด ไม่ยกพลมาทำศึกสงครามกับโชชอนที่จะแปลงเป็นการรับศึกสองด้านไป

กลับสู่หน้าหลัก https://pubbellyboys.com