ดูหนังfast and furious 10 ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟรนไชส์ Fast & Furious แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้ชมผู้คนจำนวนมากต่างมุ่งหวังจะได้ดู เห็นจะเป็นฉากแอ็กชันสุดระห่ำที่แหกทุกระเบียบและก็ไต่ระดับความเวอร์วังเพิ่มมากขึ้นในทุกๆภาค
สำหรับเพศผู้เขียนมีความรู้สึกว่าฉากแอ็กชันในภาคนี้ดูเหมือนมีความหวือหวาน้อยกว่าหลายๆภาคก่อนหน้านี้ บางครั้งก็อาจจะมิได้ถึงขั้นขับขี่รถผ่านอาคารสูง ซิ่งหนีเรือดำน้ำ หรือบินขึ้นอวกาศ แม้กระนั้นกลุ่มสร้างก็ยังประดิษฐ์ฉากแอ็กชันออกมาได้รื้นเริงและก็น่าดึงดูดตัวอย่างเช่นเดิม ไล่เรียงตั้งแต่ฉากไล่ล่ากึ่งกลางโรมที่วินาศสันตะโร หรือการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขรถยนต์ของ Jakob (John Cena) ให้แปลงเป็นรถติดปืนใหญ่ก็มองโก้ไม่แพ้กัน
ครอบครัว ฟาสแอนฟีเรียส หนังประเด็นนี้ มอง เสมือนจะให้ความเอาใจใส่แล้วก็อาจคอนเซป ความเป็นครอบครัว ในกลุ่มมิตรสหายเป็นพิเศษเลยหละครับผม ก็ควรแล้วก็สมควรแล้วหละขอรับ เพราะว่าหนังFast and Furios ภาคนี้เป็นภาคที่ครบรอบปีที่ 20 ของ Fast ซึ่งแม้ว่ามันจะต่างจากภาคแรกเป็นอย่างมากที่เน้นย้ำการแข่งรถ แต่ว่านับว่าเป็นเรื่องที่มีมายาวนานอย่างยิ่งจริงๆ
ดูหนังfast and furious 10 วงในเปิดเผย Fast & Furious 10 ภาค Fast X
จะเป็นหนังที่ใช้งบประมาณการผลิตมากมายสุดในบรรดาแฟนไชน์ สูงขึ้นมากยิ่งกว่าภาค 9 ถึง 70% หรือราว 12,000 ล้านบาท ช่วงวันที่ 17 พฤศจิกายน65 สำนักข่าว The Wrap มีรายงานงบประมาณสำหรับ “Fast X” ภาพยนตร์เรื่องที่ 10 ในแฟรนไชส์แอ็คชั่น “Fast & Furious” ทางสตูดิโอ Universal Pictures ได้ไฟเขียวอัดฉีดทุนสร้างกว่า 340 ล้านเหรียญ โดยประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งมากยิ่งกว่าทุนสร้าง 200 ล้านดอลลาร์ที่ใช้สร้าง F9: The Fast Saga ถึง 70%
ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว Fast X เร็ว…แรงทะลุเมืองนรก 10 บางทีก็อาจจะเป็นเพียงแต่ภาคแรกของจุดแรกเริ่มที่มาปฏิบัติหน้าที่เกริ่นเอาไว้ ยังมีเซอร์ไพรส์อีกเยอะที่คงจะรอคอยเซอร์วิสแฟนคลับหนังชุดนี้อยู่ในอนาคต แต่เพียงเพียงแค่จุดกำเนิดก็กล่าวโทษมันรวมทั้งความเดือดแบบไม่ยั้ง ดูหนังfast10 เล่นทำเอาอิดโรยพอได้ ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงนิดๆของหนัง นี่ก็เลยยังเป็นหนังแอคชั่นที่มอบความเพลิดเพลินได้ดุเด็ดเผ็ดมันกับผู้ชม อันเป็นเสน่ห์ของหนังชุดนี้ที่พิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่า..เพราะเหตุไรเฟรนไชส์นี้ถึงได้ยืนยาวมาจนกระทั่งภาคที่ 10 ได้
ดูหนังfast and furious 10 วิภาควิจารณ์ FAST & FURIOUS X จุดพินิจอีกอันที่ทําร้ายหนังหัวข้อนี้ก็เป็นการตัดต่อครับผม เป็นหนัง ที่มีการตัดต่อแล้วก็วาง ซึน ไม่ว่าจะเพื่อสร้างความเกี่ยวข้องของเรื่องราวแล้วก็อารมณ์ร่วมของหนังตามที แม้กระนั้นตัวหนังกลับทําออกมา ได้เข้าขั้นแย่
ด้วยเหตุว่าตัวหนังตัดต่อ แต่ละซึน ได้ไม่ไหลลื่นเอาเสียเลย การตัดสลับซึนบางจุดกลายเป็นข้อด้อย ที่ ทําร้ายหนังตั้งแต่การทําให้การตัดสลับ ระหว่าง ซึนต่อ ซึนที่ขาด ความ ไหลลืน แล้วก็ทําร้ายหนัก ถึงขั้น ทํา ให้รายละเอียดเรื่องราว ของ บาง ซึนมีลักษณะของการมีอาการเล่า สะดุดงวยงงๆจนกระทั่ง นํา อารมณ์ไม่ดี
ภาค 2 ของเครือญาติ Fast ที่เป็นภาคที่ผู้แสดงของ วิน น้ำมันดีเซล อย่าง โทเรตโต ได้สูญหายหายไป แล้วก็ เรื่องเดียวที่ไม่มีเขาโผล่มาเลย แม้กระนั้นไม่ใช่เนื่องจากเรื่องขับขี่รถหนีไปในด้านหลังเรื่องภาค 1 แต่ว่าเนื่องจาก วิน ติดการถ่ายทำ xXx (2002) ในช่วงเวลานั้น
ถ้าหากลำดับไทม์ไลน์แล้ว 2 Fast 2 Furious เกิดขึ้นในห้าปีระหว่างภาคแรก และก็ Fast ภาค 4 ซึ่งมันก็เกี่ยวเนื่องถึงสิ่งที่นักแสดง ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ ได้ทำภายหลังจากภาคแรก ทั้งภาค 2 ยังได้เสนอแนะ ผู้แสดง โรมัน เพียร์ซ ที่แสดงโดย ไทรีส กิบสัน (Tyrese Gibson) เพื่อนเก่าที่เปลี่ยนเป็นศัตรูกับไบรอัน และก็ เทจ ปาร์คเกอร์ ที่รับบทบาทโดย ลูดาคริส (Ludacris) ซึ่งหลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มดอมมาจนกระทั่งภาคปัจจุบันนี้
แม้ว่าจะผ่านพ้นมากมายว่ายี่สิบปีแล้ว แม้กระนั้นการเดินทางเร็วแรงทะลุเมืองนรก
ของ Dominic Toretto (Vin Diesel) ดูเหมือนจะยังไม่สิ้นสุดเร็วๆนี้ เนื่องจาก Fast X เป็นเพียงแต่ปฐมบทของสามภาคใหม่ (ที่เขากล่าวว่าจะเป็นสามภาคสุดท้าย… มั้ง) แปลว่า ทางบนถนนหนทางสายนี้ยังอีกยาวไกล รวมทั้งครอบครัวของ Dom ในภาคนี้ก็ขยายใหญ่ขึ้น จวบจนตอนนี้มีดาราเล็กใหญ่เต็มหน้าจอไปหมด บอกได้ว่า ลิสต์รายนามศิลปินยังยาวกว่า
เรื่องย่อ อีกมูลเหตุหนึ่งก็คือการที่ตัวหนังในภาคนี้คงจะมีสเกลที่ใหญ่มากยิ่งกว่าภาคก่อนหน้าด้วยนั่นเอง ซึ่งตัวหนังมีระบุฉาย 19 พ.ค. 2023 อยู่ในช่วงเวลานี้
ยิ่งกว่านั้น Fast X พวกเราจะได้เห็นดีเห็นชอบเซล กลับมาแสดงอีกทีในฐานะ โดมินิก โทเร็ตโต แล้วก็กลุ่มดารายังมี Jason Momoa จาก Justice League รวมทั้ง Aquaman มารับบทเป็นคนร้ายที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ ดังนี้เป็นที่โชคร้ายที่ เดอะร็อค หรือ ดเวย์น จอห์นสัน จะยังคงไม่กลับมาร่วมแสดงในแฟรนไชน์ภาค 10 นี้
Fast and furious 9 มองนี่ดิ วิภาควิจารณ์หนัง ด้วยความจริง เวลาผมเขียน รีวิวแต่ละเรื่องผมมักเขียนเริ่มจากจุดเด่นของหนังประเด็นนั้นและก็แง่คิดที่ได้จากหัวข้อนั้นก่ฮนบ่อยๆแต่ว่าประเด็นนี้ผมพากเพียรคิดเช่นไรก็จำไม่ได้ เว้นแต่ความลงทุนด้าน CG ซึ่งมันเป็นส่วนประกอบด้านนอกของหนัง ซึ่งขอดู CG และก็การพยายามปรับพฤติกรรมให้กับเทรนด์ของหนังที่อุตสาหะปรับให้กับกระแสแล้วกันนะครับ
การลดขนาดสเกลฉากแอ็กชันลงแบบนี้ ดูหนังfast and furious 10 บางทีอาจมิได้ทำให้พวกเรารู้สึกว้าวกับความเล่นใหญ่เล่นโตเกินจริงแบบภาคก่อนๆก็จริง แต่ว่าเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้ฉากแอ็กชันต่างๆของ Fast X อยู่ในจุดที่เหมาะสม ไม่เวอร์จนถึงเกินเลย แม้กระนั้นก็ยังรักษาความเวอร์เกินจริงอันเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของแฟรนไชส์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์
อีกแง่หนึ่งพวกเราก็แอบมีความรู้สึกว่า เหตุผลที่ฉากแอ็กชันในภาคนี้ถูกลดขนาดสเกลลง บางทีอาจเนื่องจากกลุ่มสร้างเลือกที่จะเก็บไอเดียสำหรับในการสร้างฉากแอ็กชันใหญ่ๆไว้สำหรับใช้ในหนังภาคถัดไป เพื่อข้อสรุปของ Fast & Furious ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เป็นได้ ซึ่งพวกเราคงจะต้องติดตามกันว่ากล่าวกลุ่มสร้างจะประดิษฐ์ฉากแอ็กชันรถยนต์ซิ่งของครอบครัวเหนือมนุษย์กลุ่มนี้ออกมาเวอร์วังยอดเยี่ยมขนาดไหน
อย่างไรก็ดี แผลใหญ่สำคัญที่ทำให้ Fast X เปลี่ยนเป็นหนังที่ไม่กลมกล่อมละมุนละไม
เป็นการพยายามยัดนักแสดงใหม่เข้ามามากจนเกินไป โดยถ้าไม่นับตัวร้ายคนใหม่อย่าง Dante ในภาคนี้มีการแนะนำตัวละครใหม่เข้ามาเพิ่มถึง 3 คนร่วมกัน อย่างเช่น Tess (Brie Larson) บุตรสาวของ Mr. Nobody (Kurt Russell), Aimes (Alan Ritchson) ผู้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยลับแทน Mr. Nobody แล้วก็ Isabel (Daniela Melchior) นักแข่งรถสาวมากมายความสามารถ ก็เลยทำให้ตัวภาพยนตร์ที่เดิมก็มีตัวละครหลายตัวมากมายๆอยู่แล้ว จำเป็นต้องแบ่งเวลามาเล่าราวนักแสดงกลุ่มนี้ด้วย
ซึ่งส่วนตัวนักเขียนเห็นว่านักแสดงกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีหน้าที่ที่สำคัญเท่าไรนัก ดูหนังfast and furious 10 โดยยิ่งไปกว่านั้น Tess แล้วก็ Isabel ที่พวกเรารู้สึกว่าถ้าเกิดว่าไม่มีสองนักแสดงนี้ก็อาจมิได้มีผลต่อเรื่องราวหลักเท่าไรนัก หรือไม่ก็สามารถแทนที่ด้วยผู้แสดงสมทบอื่นๆที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีหน้าที่สำคัญเท่านี้ก็ได้เช่นเดียวกัน
หนังหัวข้อนี้เป็นเยี่ยงไรจากทรรศนะจริงๆ ผมมีความรู้สึกว่า ฟาสแอนฟีเรียส 9 ภาคอื่นๆยึดติดกับตัวผู้แสดงมากเกินความจำเป็นกว่าที่ควรเป็น ซึ่งในเรื่องก็คือ ดอม โทเร็ตโต้ ซึ่งมันไม่ใช่ไม่ดีหรอกครับผม พวกเราจะได้ผูกพันธ์กับนักแสดง แม้กระนั้นนี่มันหลายภาคเหลือเกินจนกระทั่งรู้สึกเบื่อ พวกเรามองเห็นดอมมาตั้งแต่เพียงแค่แข่งรถ แม้กระนั้นเวลานี้เปรียบได้กับ โงกุน ในการ์ตูนดราก้อนบอลที่ฆ่าไม่ตายไปแล้วหละขอรับ
รวมถึงผู้แสดงอื่นๆอีก ซึ่งผมเห็นว่าหนังหัวข้อนี้มีแรงดลใจอีกทั้งการตัดต่อ การดำเนินเรื่องจากหนัง มาร์เวลซึ่งมันไม่เหมือนกันตรงที่ มาร์เวล มีช่วงเวลาของงนักแสดง ufa666win มีเริ่มแล้วก็จบ และก็มีความมากมายหลายของเรื่องราวที่แตกต่างเรียกตัวละคร แต่ว่าเรื่อง Fast มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทุกคนมากมายระจุกอยู่ในหนังเรื่องๆเดียว แล้วก็การอยู่กับใครกันแน่นานๆมันย่อมน่าระอาเป็นปกติ ผมแอบคิดว่าถ้าหากจะทำ Fast กันถัดไป จะมาเน้นย้ำเพียงแค่ CG สิ่งเดียวไม่น่าจะเวิร์กแล้ว เรื่องราวจำเป็นต้องมีเหตุผลด้วย รวมทั้งควรมีคุณลักษณะเด่นที่บางทีอาจจะคือเรื่องของการแข่งรถจริงๆเสียมากกว่า
เกือบจะช่วงเวลา 21 ไปสู่ปีที่ 22 ของ หนังเครือญาติ Fast and Furious
ที่ยกฐานะจากหนังแข่งรถริมถนนในสมัยที่แผ่น DVD ยังขายดิบขายดีเทน้ำท่าจนกระทั่งมายุคสตีมไม่ง ผ่านวิกฤตวัววิด-19 ก้าวเข้าสู่ภาคที่ 10 ในชื่อ Fast X หรือ Fast & Furious 10 ที่นักแสดงหลักของฝั่งดารานำชาย โดมินิค โทเร็ตโต ที่มาครบกลุ่มครอบครัว
ดูหนังfast and furious 10 พร้อมแนะนำตัวละครใหม่อย่าง ดันเต ที่สวมบทบาทโดย เจสัน โมมัว (Jason Momoa) ตัวร้ายที่ได้รับการรับรองแล้วว่า เป็นลูกชาย เฮอร์นัน ผู้ร้ายค้ายาตัวร้ายจากภาค Fast Five ที่ถูกครอบครัว Fast ฆ่า ทำให้เรื่องราวเป็นจุดเชื่อมระหว่างภาค 5 แล้วก็ ภาค 10 แน่ๆ ดันเต ขนความแค้นกลับมาสุดกำลังเพื่อทำแบบเดียว ดอม เคยทำกับครอบครัวเขาเช่นเดียวกัน รวมทั้งผู้แสดง เทส ของ บรี ลาร์สัน (Brie Larson) ที่เดาว่าจะมาเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในครอบครัวของ ดอม
ซึ่งถ้าหากมองจากแบบอย่างปัจจุบันที่ปลดปล่อยมาในตอนเมษายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา บทของ ดันเต ของ เจสัน โมมัว จะเป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจมากยิ่งกว่าภาคอื่นๆทั้งยังฉากต่อสู้ด้วยตัวเอง รวมทั้งฉากไล่ล่าในกรุงโรม รวมทั้ง ระเบิดขนาดยักษ์สร้างความวอดวายให้กับเมืองหลวงของอิตาลี หลังจากนั้นจะกำเนิดอะไรขึ้นอาจจะจะต้องไปลุ้นกันในโรงหนังอีกครั้ง
การนำผู้แสดงที่เป็นสุดที่รักของแฟนคลับกลับมามีหน้าที่อีกรอบ บางทีก็อาจจะตอบปัญหาในด้านของการเติมเต็มการนึกถึงของผู้ชม แม้กระนั้นตรงกันข้าม มันกลับทำให้ในทุกๆครั้งที่มีตัวละครสำคัญตาย พวกเรากลับมิได้มีความรู้สึกร่วมกับการสูญเสียดังที่กล่าวผ่านมาแล้วอย่างที่ผู้ผลิตอยากให้เป็น เพราะเหตุว่ามันทำให้พวกเรามีความรู้สึกว่า แม้ว่าจะมีตัวละครบางตัวตายไป แม้กระนั้นมันก็ได้โอกาสที่นักแสดงพวกนั้นจะกลับมามีหน้าที่อีกรอบได้อย่างเดียวกัน
